โปรแกรมหาตัวประกอบของจำนวนนับ
ใส่ตัวเลขที่ต้องการหาตัวประกอบ โปรแกรมจะแสดงคำตอบและวิธีการแยกตัวประกอบให้อัตโนมัติ
เทพควิช-lnwquiz

ตัวประกอบของ 25382 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 25382

คำนิยาม

ตัวประกอบของ 25382 มีอะไรบ้าง

ตัวประกอบของ 25382 มีทั้งหมด 16 ตัวคือ 1, 2, 7, 14, 37, 49, 74, 98, 259, 343, 518, 686, 1813, 3626, 12691, 25382
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
25382 ÷ 1=25382เหลือเศษ 0
25382 ÷ 2=12691เหลือเศษ 0
25382 ÷ 7=3626เหลือเศษ 0
25382 ÷ 14=1813เหลือเศษ 0
25382 ÷ 37=686เหลือเศษ 0
25382 ÷ 49=518เหลือเศษ 0
25382 ÷ 74=343เหลือเศษ 0
25382 ÷ 98=259เหลือเศษ 0
25382 ÷ 259=98เหลือเศษ 0
25382 ÷ 343=74เหลือเศษ 0
25382 ÷ 518=49เหลือเศษ 0
25382 ÷ 686=37เหลือเศษ 0
25382 ÷ 1813=14เหลือเศษ 0
25382 ÷ 3626=7เหลือเศษ 0
25382 ÷ 12691=2เหลือเศษ 0
25382 ÷ 25382=1เหลือเศษ 0
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 25382
1 x 25382
2 x 12691
7 x 3626
14 x 1813
37 x 686
49 x 518
74 x 343
98 x 259
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 25382
1 + 2 + 7 + 14 + 37 + 49 + 74 + 98 + 259 + 343 + 518 + 686 + 1813 + 3626 + 12691 + 25382 = 45600
ตัวประกอบของ 25382 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
2, 7, 37
การแยกตัวประกอบคืออะไร

25382 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้

25382 = 2 x 7 x 7 x 7 x 37
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 25382 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
25382 = 2 x 73 x 37
วิธีการแยกตัวประกอบ

1. การแยกตัวประกอบของ 25382 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲

วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 25382 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 25382 มา 1 คู่ เช่น 2 x 12691
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 25382
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 25382 แบบที่หนึ่ง
  • 25382
    • 98
      • 7
      • 14
        • 2
        • 7
    • 259
      • 7
      • 37

ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 25382 แบบที่สอง
  • 25382
    • 2
    • 12691
      • 7
      • 1813
        • 7
        • 259
          • 7
          • 37
ดังนั้น 25382 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
25382 = 2 x 7 x 7 x 7 x 37
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
25382 = 2 x 73 x 37 หรือ 21 x 73 x 371

2. การแยกตัวประกอบของ 25382 ด้วยวิธีหารสั้น

วิธีทำ
1หาร 25382 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 25382 นั้นก็คือ 2, 7, 37 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 25382

2
)25382
7
)12691
7
)1813
7
)259
37
)37
1
ดังนั้น 25382 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
25382 = 2 x 7 x 7 x 7 x 37
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
25382 = 2 x 73 x 37 หรือ 21 x 73 x 371

วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 25382

1แยกตัวประกอบของ 25382 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 73 x 371
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
  • 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
  • 👉 7 มีเลขชี้กำลังคือ 3 ให้เอา 3 + 1 = 4
  • 👉 37 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 4 x 2 = 16
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 25382 มีทั้งหมด 16 ตัว
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 25382 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇