ตัวประกอบของ 25302 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 25302
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 25302 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 25302 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 25302 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 25302 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 25302 มีทั้งหมด 8 ตัวคือ 1, 2, 3, 6, 4217, 8434, 12651, 25302
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
25302 ÷ 1 | = | 25302 | เหลือเศษ 0 |
25302 ÷ 2 | = | 12651 | เหลือเศษ 0 |
25302 ÷ 3 | = | 8434 | เหลือเศษ 0 |
25302 ÷ 6 | = | 4217 | เหลือเศษ 0 |
25302 ÷ 4217 | = | 6 | เหลือเศษ 0 |
25302 ÷ 8434 | = | 3 | เหลือเศษ 0 |
25302 ÷ 12651 | = | 2 | เหลือเศษ 0 |
25302 ÷ 25302 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 25302
1 x 25302 | = | 25302 |
2 x 12651 | = | 25302 |
3 x 8434 | = | 25302 |
6 x 4217 | = | 25302 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 25302
1 + 2 + 3 + 6 + 4217 + 8434 + 12651 + 25302 = 50616
▶ ตัวประกอบของ 25302 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
2, 3, 4217
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 25302 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
25302 = 2 x 3 x 4217
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 25302 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 25302 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 25302 มา 1 คู่ เช่น 2 x 12651
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 25302
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 25302 แบบที่หนึ่ง
- 25302
- 6
- 2
- 3
- 4217
- 6
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 25302 แบบที่สอง
- 25302
- 2
- 12651
- 3
- 4217
ดังนั้น 25302 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
25302 =
2 x 3 x 4217
2. การแยกตัวประกอบของ 25302 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 25302 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 25302 นั้นก็คือ 2, 3, 4217 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 25302
2)253023)126514217)42171ดังนั้น 25302 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้25302 = 2 x 3 x 4217วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 25302
1แยกตัวประกอบของ 25302 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 31 x 421712ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 4217 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 25302 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 25302 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 25302 นั้นก็คือ 2, 3, 4217 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 25302
2
)25302
3
)12651
4217
)4217
1
ดังนั้น 25302 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
25302 = 2 x 3 x 4217
1แยกตัวประกอบของ 25302 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 31 x 42171
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 4217 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 25302 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 25302 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇