ตัวประกอบของ 23545 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 23545
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 23545 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 23545 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 23545 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 23545 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 23545 มีทั้งหมด 8 ตัวคือ 1, 5, 17, 85, 277, 1385, 4709, 23545
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
23545 ÷ 1 | = | 23545 | เหลือเศษ 0 |
23545 ÷ 5 | = | 4709 | เหลือเศษ 0 |
23545 ÷ 17 | = | 1385 | เหลือเศษ 0 |
23545 ÷ 85 | = | 277 | เหลือเศษ 0 |
23545 ÷ 277 | = | 85 | เหลือเศษ 0 |
23545 ÷ 1385 | = | 17 | เหลือเศษ 0 |
23545 ÷ 4709 | = | 5 | เหลือเศษ 0 |
23545 ÷ 23545 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 23545
1 x 23545 | = | 23545 |
5 x 4709 | = | 23545 |
17 x 1385 | = | 23545 |
85 x 277 | = | 23545 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 23545
1 + 5 + 17 + 85 + 277 + 1385 + 4709 + 23545 = 30024
▶ ตัวประกอบของ 23545 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
5, 17, 277
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 23545 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
23545 = 5 x 17 x 277
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 23545 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 23545 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 23545 มา 1 คู่ เช่น 5 x 4709
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 23545
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 23545 แบบที่หนึ่ง
- 23545
- 85
- 5
- 17
- 277
- 85
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 23545 แบบที่สอง
- 23545
- 5
- 4709
- 17
- 277
ดังนั้น 23545 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
23545 =
5 x 17 x 277
2. การแยกตัวประกอบของ 23545 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 23545 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 23545 นั้นก็คือ 5, 17, 277 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 23545
5)2354517)4709277)2771ดังนั้น 23545 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้23545 = 5 x 17 x 277วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 23545
1แยกตัวประกอบของ 23545 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 51 x 171 x 27712ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 5 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 17 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 277 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 23545 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 23545 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 23545 นั้นก็คือ 5, 17, 277 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 23545
5
)23545
17
)4709
277
)277
1
ดังนั้น 23545 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
23545 = 5 x 17 x 277
1แยกตัวประกอบของ 23545 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 51 x 171 x 2771
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 5 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 17 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 277 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 23545 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 23545 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇