ตัวประกอบของ 10574 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 10574
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 10574 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 10574 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 10574 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 10574 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 10574 มีทั้งหมด 8 ตัวคือ 1, 2, 17, 34, 311, 622, 5287, 10574
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
10574 ÷ 1 | = | 10574 | เหลือเศษ 0 |
10574 ÷ 2 | = | 5287 | เหลือเศษ 0 |
10574 ÷ 17 | = | 622 | เหลือเศษ 0 |
10574 ÷ 34 | = | 311 | เหลือเศษ 0 |
10574 ÷ 311 | = | 34 | เหลือเศษ 0 |
10574 ÷ 622 | = | 17 | เหลือเศษ 0 |
10574 ÷ 5287 | = | 2 | เหลือเศษ 0 |
10574 ÷ 10574 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 10574
1 x 10574 | = | 10574 |
2 x 5287 | = | 10574 |
17 x 622 | = | 10574 |
34 x 311 | = | 10574 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 10574
1 + 2 + 17 + 34 + 311 + 622 + 5287 + 10574 = 16848
▶ ตัวประกอบของ 10574 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
2, 17, 311
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 10574 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
10574 = 2 x 17 x 311
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 10574 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 10574 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 10574 มา 1 คู่ เช่น 2 x 5287
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 10574
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 10574 แบบที่หนึ่ง
- 10574
- 34
- 2
- 17
- 311
- 34
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 10574 แบบที่สอง
- 10574
- 2
- 5287
- 17
- 311
ดังนั้น 10574 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
10574 =
2 x 17 x 311
2. การแยกตัวประกอบของ 10574 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 10574 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 10574 นั้นก็คือ 2, 17, 311 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 10574
2)1057417)5287311)3111ดังนั้น 10574 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้10574 = 2 x 17 x 311วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 10574
1แยกตัวประกอบของ 10574 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 171 x 31112ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 17 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 311 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 10574 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 10574 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 10574 นั้นก็คือ 2, 17, 311 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 10574
2
)10574
17
)5287
311
)311
1
ดังนั้น 10574 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
10574 = 2 x 17 x 311
1แยกตัวประกอบของ 10574 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 171 x 3111
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 17 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 311 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 10574 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 10574 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇