โปรแกรมหาตัวประกอบของจำนวนนับ
ใส่ตัวเลขที่ต้องการหาตัวประกอบ โปรแกรมจะแสดงคำตอบและวิธีการแยกตัวประกอบให้อัตโนมัติ
เทพควิช-lnwquiz

ตัวประกอบของ 1053 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 1053

คำนิยาม

ตัวประกอบของ 1053 มีอะไรบ้าง

ตัวประกอบของ 1053 มีทั้งหมด 10 ตัวคือ 1, 3, 9, 13, 27, 39, 81, 117, 351, 1053
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
1053 ÷ 1=1053เหลือเศษ 0
1053 ÷ 3=351เหลือเศษ 0
1053 ÷ 9=117เหลือเศษ 0
1053 ÷ 13=81เหลือเศษ 0
1053 ÷ 27=39เหลือเศษ 0
1053 ÷ 39=27เหลือเศษ 0
1053 ÷ 81=13เหลือเศษ 0
1053 ÷ 117=9เหลือเศษ 0
1053 ÷ 351=3เหลือเศษ 0
1053 ÷ 1053=1เหลือเศษ 0
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 1053
1 x 1053
3 x 351
9 x 117
13 x 81
27 x 39
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 1053
1 + 3 + 9 + 13 + 27 + 39 + 81 + 117 + 351 + 1053 = 1694
ตัวประกอบของ 1053 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 2 ตัวดังนี้
3, 13
การแยกตัวประกอบคืออะไร

1053 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้

1053 = 3 x 3 x 3 x 3 x 13
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 1053 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
1053 = 34 x 13
วิธีการแยกตัวประกอบ

1. การแยกตัวประกอบของ 1053 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲

วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 1053 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 1053 มา 1 คู่ เช่น 3 x 351
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 1053
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 1053 แบบที่หนึ่ง
  • 1053
    • 27
      • 3
      • 9
        • 3
        • 3
    • 39
      • 3
      • 13

ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 1053 แบบที่สอง
  • 1053
    • 3
    • 351
      • 3
      • 117
        • 3
        • 39
          • 3
          • 13
ดังนั้น 1053 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
1053 = 3 x 3 x 3 x 3 x 13
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
1053 = 34 x 13 หรือ 34 x 131

2. การแยกตัวประกอบของ 1053 ด้วยวิธีหารสั้น

วิธีทำ
1หาร 1053 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 1053 นั้นก็คือ 3, 13 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 1053

3
)1053
3
)351
3
)117
3
)39
13
)13
1
ดังนั้น 1053 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
1053 = 3 x 3 x 3 x 3 x 13
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
1053 = 34 x 13 หรือ 34 x 131

วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 1053

1แยกตัวประกอบของ 1053 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 34 x 131
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
  • 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 4 ให้เอา 4 + 1 = 5
  • 👉 13 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 5 x 2 = 10
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 1053 มีทั้งหมด 10 ตัว
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 1053 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇