โปรแกรมหาตัวประกอบของจำนวนนับ
ใส่ตัวเลขที่ต้องการหาตัวประกอบ โปรแกรมจะแสดงคำตอบและวิธีการแยกตัวประกอบให้อัตโนมัติ
เทพควิช-lnwquiz

ตัวประกอบของ 9477 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 9477

คำนิยาม

ตัวประกอบของ 9477 มีอะไรบ้าง

ตัวประกอบของ 9477 มีทั้งหมด 14 ตัวคือ 1, 3, 9, 13, 27, 39, 81, 117, 243, 351, 729, 1053, 3159, 9477
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
9477 ÷ 1=9477เหลือเศษ 0
9477 ÷ 3=3159เหลือเศษ 0
9477 ÷ 9=1053เหลือเศษ 0
9477 ÷ 13=729เหลือเศษ 0
9477 ÷ 27=351เหลือเศษ 0
9477 ÷ 39=243เหลือเศษ 0
9477 ÷ 81=117เหลือเศษ 0
9477 ÷ 117=81เหลือเศษ 0
9477 ÷ 243=39เหลือเศษ 0
9477 ÷ 351=27เหลือเศษ 0
9477 ÷ 729=13เหลือเศษ 0
9477 ÷ 1053=9เหลือเศษ 0
9477 ÷ 3159=3เหลือเศษ 0
9477 ÷ 9477=1เหลือเศษ 0
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 9477
1 x 9477
3 x 3159
9 x 1053
13 x 729
27 x 351
39 x 243
81 x 117
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 9477
1 + 3 + 9 + 13 + 27 + 39 + 81 + 117 + 243 + 351 + 729 + 1053 + 3159 + 9477 = 15302
ตัวประกอบของ 9477 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 2 ตัวดังนี้
3, 13
การแยกตัวประกอบคืออะไร

9477 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้

9477 = 3 x 3 x 3 x 3 x 3 x 3 x 13
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 9477 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
9477 = 36 x 13
วิธีการแยกตัวประกอบ

1. การแยกตัวประกอบของ 9477 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲

วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 9477 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 9477 มา 1 คู่ เช่น 3 x 3159
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 9477
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 9477 แบบที่หนึ่ง
  • 9477
    • 81
      • 9
        • 3
        • 3
      • 9
        • 3
        • 3
    • 117
      • 9
        • 3
        • 3
      • 13

ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 9477 แบบที่สอง
  • 9477
    • 3
    • 3159
      • 3
      • 1053
        • 3
        • 351
          • 3
          • 117
            • 3
            • 39
              • 3
              • 13
ดังนั้น 9477 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
9477 = 3 x 3 x 3 x 3 x 3 x 3 x 13
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
9477 = 36 x 13 หรือ 36 x 131

2. การแยกตัวประกอบของ 9477 ด้วยวิธีหารสั้น

วิธีทำ
1หาร 9477 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 9477 นั้นก็คือ 3, 13 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 9477

3
)9477
3
)3159
3
)1053
3
)351
3
)117
3
)39
13
)13
1
ดังนั้น 9477 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
9477 = 3 x 3 x 3 x 3 x 3 x 3 x 13
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
9477 = 36 x 13 หรือ 36 x 131

วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 9477

1แยกตัวประกอบของ 9477 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 36 x 131
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
  • 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 6 ให้เอา 6 + 1 = 7
  • 👉 13 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 7 x 2 = 14
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 9477 มีทั้งหมด 14 ตัว
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 9477 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇