ตัวประกอบของ 9393 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 9393
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 9393 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 9393 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 9393 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 9393 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 9393 มีทั้งหมด 8 ตัวคือ 1, 3, 31, 93, 101, 303, 3131, 9393
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
9393 ÷ 1 | = | 9393 | เหลือเศษ 0 |
9393 ÷ 3 | = | 3131 | เหลือเศษ 0 |
9393 ÷ 31 | = | 303 | เหลือเศษ 0 |
9393 ÷ 93 | = | 101 | เหลือเศษ 0 |
9393 ÷ 101 | = | 93 | เหลือเศษ 0 |
9393 ÷ 303 | = | 31 | เหลือเศษ 0 |
9393 ÷ 3131 | = | 3 | เหลือเศษ 0 |
9393 ÷ 9393 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 9393
1 x 9393 | = | 9393 |
3 x 3131 | = | 9393 |
31 x 303 | = | 9393 |
93 x 101 | = | 9393 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 9393
1 + 3 + 31 + 93 + 101 + 303 + 3131 + 9393 = 13056
▶ ตัวประกอบของ 9393 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
3, 31, 101
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 9393 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
9393 = 3 x 31 x 101
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 9393 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 9393 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 9393 มา 1 คู่ เช่น 3 x 3131
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 9393
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 9393 แบบที่หนึ่ง
- 9393
- 93
- 3
- 31
- 101
- 93
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 9393 แบบที่สอง
- 9393
- 3
- 3131
- 31
- 101
ดังนั้น 9393 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
9393 =
3 x 31 x 101
2. การแยกตัวประกอบของ 9393 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 9393 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 9393 นั้นก็คือ 3, 31, 101 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 9393
3)939331)3131101)1011ดังนั้น 9393 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้9393 = 3 x 31 x 101วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 9393
1แยกตัวประกอบของ 9393 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 31 x 311 x 10112ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 31 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 101 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 9393 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 9393 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 9393 นั้นก็คือ 3, 31, 101 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 9393
3
)9393
31
)3131
101
)101
1
ดังนั้น 9393 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
9393 = 3 x 31 x 101
1แยกตัวประกอบของ 9393 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 31 x 311 x 1011
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 31 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 101 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 9393 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 9393 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇