ตัวประกอบของ 8365 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 8365
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 8365 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 8365 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 8365 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 8365 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 8365 มีทั้งหมด 8 ตัวคือ 1, 5, 7, 35, 239, 1195, 1673, 8365
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
8365 ÷ 1 | = | 8365 | เหลือเศษ 0 |
8365 ÷ 5 | = | 1673 | เหลือเศษ 0 |
8365 ÷ 7 | = | 1195 | เหลือเศษ 0 |
8365 ÷ 35 | = | 239 | เหลือเศษ 0 |
8365 ÷ 239 | = | 35 | เหลือเศษ 0 |
8365 ÷ 1195 | = | 7 | เหลือเศษ 0 |
8365 ÷ 1673 | = | 5 | เหลือเศษ 0 |
8365 ÷ 8365 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 8365
1 x 8365 | = | 8365 |
5 x 1673 | = | 8365 |
7 x 1195 | = | 8365 |
35 x 239 | = | 8365 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 8365
1 + 5 + 7 + 35 + 239 + 1195 + 1673 + 8365 = 11520
▶ ตัวประกอบของ 8365 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
5, 7, 239
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 8365 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
8365 = 5 x 7 x 239
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 8365 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 8365 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 8365 มา 1 คู่ เช่น 5 x 1673
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 8365
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 8365 แบบที่หนึ่ง
- 8365
- 35
- 5
- 7
- 239
- 35
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 8365 แบบที่สอง
- 8365
- 5
- 1673
- 7
- 239
ดังนั้น 8365 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
8365 =
5 x 7 x 239
2. การแยกตัวประกอบของ 8365 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 8365 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 8365 นั้นก็คือ 5, 7, 239 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 8365
5)83657)1673239)2391ดังนั้น 8365 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้8365 = 5 x 7 x 239วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 8365
1แยกตัวประกอบของ 8365 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 51 x 71 x 23912ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 5 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 7 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 239 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 8365 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 8365 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 8365 นั้นก็คือ 5, 7, 239 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 8365
5
)8365
7
)1673
239
)239
1
ดังนั้น 8365 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
8365 = 5 x 7 x 239
1แยกตัวประกอบของ 8365 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 51 x 71 x 2391
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 5 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 7 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 239 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 8365 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 8365 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇