ตัวประกอบของ 8355 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 8355
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 8355 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 8355 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 8355 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 8355 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 8355 มีทั้งหมด 8 ตัวคือ 1, 3, 5, 15, 557, 1671, 2785, 8355
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
8355 ÷ 1 | = | 8355 | เหลือเศษ 0 |
8355 ÷ 3 | = | 2785 | เหลือเศษ 0 |
8355 ÷ 5 | = | 1671 | เหลือเศษ 0 |
8355 ÷ 15 | = | 557 | เหลือเศษ 0 |
8355 ÷ 557 | = | 15 | เหลือเศษ 0 |
8355 ÷ 1671 | = | 5 | เหลือเศษ 0 |
8355 ÷ 2785 | = | 3 | เหลือเศษ 0 |
8355 ÷ 8355 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 8355
1 x 8355 | = | 8355 |
3 x 2785 | = | 8355 |
5 x 1671 | = | 8355 |
15 x 557 | = | 8355 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 8355
1 + 3 + 5 + 15 + 557 + 1671 + 2785 + 8355 = 13392
▶ ตัวประกอบของ 8355 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
3, 5, 557
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 8355 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
8355 = 3 x 5 x 557
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 8355 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 8355 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 8355 มา 1 คู่ เช่น 3 x 2785
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 8355
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 8355 แบบที่หนึ่ง
- 8355
- 15
- 3
- 5
- 557
- 15
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 8355 แบบที่สอง
- 8355
- 3
- 2785
- 5
- 557
ดังนั้น 8355 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
8355 =
3 x 5 x 557
2. การแยกตัวประกอบของ 8355 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 8355 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 8355 นั้นก็คือ 3, 5, 557 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 8355
3)83555)2785557)5571ดังนั้น 8355 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้8355 = 3 x 5 x 557วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 8355
1แยกตัวประกอบของ 8355 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 31 x 51 x 55712ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 5 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 557 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 8355 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 8355 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 8355 นั้นก็คือ 3, 5, 557 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 8355
3
)8355
5
)2785
557
)557
1
ดังนั้น 8355 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
8355 = 3 x 5 x 557
1แยกตัวประกอบของ 8355 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 31 x 51 x 5571
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 5 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 557 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 8355 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 8355 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇