โปรแกรมหาตัวประกอบของจำนวนนับ
ใส่ตัวเลขที่ต้องการหาตัวประกอบ โปรแกรมจะแสดงคำตอบและวิธีการแยกตัวประกอบให้อัตโนมัติ
เทพควิช-lnwquiz

ตัวประกอบของ 6648 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 6648

คำนิยาม

ตัวประกอบของ 6648 มีอะไรบ้าง

ตัวประกอบของ 6648 มีทั้งหมด 16 ตัวคือ 1, 2, 3, 4, 6, 8, 12, 24, 277, 554, 831, 1108, 1662, 2216, 3324, 6648
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
6648 ÷ 1=6648เหลือเศษ 0
6648 ÷ 2=3324เหลือเศษ 0
6648 ÷ 3=2216เหลือเศษ 0
6648 ÷ 4=1662เหลือเศษ 0
6648 ÷ 6=1108เหลือเศษ 0
6648 ÷ 8=831เหลือเศษ 0
6648 ÷ 12=554เหลือเศษ 0
6648 ÷ 24=277เหลือเศษ 0
6648 ÷ 277=24เหลือเศษ 0
6648 ÷ 554=12เหลือเศษ 0
6648 ÷ 831=8เหลือเศษ 0
6648 ÷ 1108=6เหลือเศษ 0
6648 ÷ 1662=4เหลือเศษ 0
6648 ÷ 2216=3เหลือเศษ 0
6648 ÷ 3324=2เหลือเศษ 0
6648 ÷ 6648=1เหลือเศษ 0
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 6648
1 x 6648
2 x 3324
3 x 2216
4 x 1662
6 x 1108
8 x 831
12 x 554
24 x 277
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 6648
1 + 2 + 3 + 4 + 6 + 8 + 12 + 24 + 277 + 554 + 831 + 1108 + 1662 + 2216 + 3324 + 6648 = 16680
ตัวประกอบของ 6648 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
2, 3, 277
การแยกตัวประกอบคืออะไร

6648 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้

6648 = 2 x 2 x 2 x 3 x 277
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 6648 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
6648 = 23 x 3 x 277
วิธีการแยกตัวประกอบ

1. การแยกตัวประกอบของ 6648 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲

วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 6648 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 6648 มา 1 คู่ เช่น 2 x 3324
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 6648
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 6648 แบบที่หนึ่ง
  • 6648
    • 24
      • 4
        • 2
        • 2
      • 6
        • 2
        • 3
    • 277

ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 6648 แบบที่สอง
  • 6648
    • 2
    • 3324
      • 2
      • 1662
        • 2
        • 831
          • 3
          • 277
ดังนั้น 6648 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
6648 = 2 x 2 x 2 x 3 x 277
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
6648 = 23 x 3 x 277 หรือ 23 x 31 x 2771

2. การแยกตัวประกอบของ 6648 ด้วยวิธีหารสั้น

วิธีทำ
1หาร 6648 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 6648 นั้นก็คือ 2, 3, 277 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 6648

2
)6648
2
)3324
2
)1662
3
)831
277
)277
1
ดังนั้น 6648 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
6648 = 2 x 2 x 2 x 3 x 277
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
6648 = 23 x 3 x 277 หรือ 23 x 31 x 2771

วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 6648

1แยกตัวประกอบของ 6648 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 23 x 31 x 2771
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
  • 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 3 ให้เอา 3 + 1 = 4
  • 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
  • 👉 277 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 4 x 2 x 2 = 16
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 6648 มีทั้งหมด 16 ตัว
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 6648 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇