ตัวประกอบของ 6645 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 6645
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 6645 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 6645 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 6645 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 6645 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 6645 มีทั้งหมด 8 ตัวคือ 1, 3, 5, 15, 443, 1329, 2215, 6645
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
6645 ÷ 1 | = | 6645 | เหลือเศษ 0 |
6645 ÷ 3 | = | 2215 | เหลือเศษ 0 |
6645 ÷ 5 | = | 1329 | เหลือเศษ 0 |
6645 ÷ 15 | = | 443 | เหลือเศษ 0 |
6645 ÷ 443 | = | 15 | เหลือเศษ 0 |
6645 ÷ 1329 | = | 5 | เหลือเศษ 0 |
6645 ÷ 2215 | = | 3 | เหลือเศษ 0 |
6645 ÷ 6645 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 6645
1 x 6645 | = | 6645 |
3 x 2215 | = | 6645 |
5 x 1329 | = | 6645 |
15 x 443 | = | 6645 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 6645
1 + 3 + 5 + 15 + 443 + 1329 + 2215 + 6645 = 10656
▶ ตัวประกอบของ 6645 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
3, 5, 443
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 6645 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
6645 = 3 x 5 x 443
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 6645 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 6645 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 6645 มา 1 คู่ เช่น 3 x 2215
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 6645
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 6645 แบบที่หนึ่ง
- 6645
- 15
- 3
- 5
- 443
- 15
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 6645 แบบที่สอง
- 6645
- 3
- 2215
- 5
- 443
ดังนั้น 6645 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
6645 =
3 x 5 x 443
2. การแยกตัวประกอบของ 6645 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 6645 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 6645 นั้นก็คือ 3, 5, 443 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 6645
3)66455)2215443)4431ดังนั้น 6645 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้6645 = 3 x 5 x 443วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 6645
1แยกตัวประกอบของ 6645 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 31 x 51 x 44312ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 5 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 443 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 6645 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 6645 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 6645 นั้นก็คือ 3, 5, 443 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 6645
3
)6645
5
)2215
443
)443
1
ดังนั้น 6645 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
6645 = 3 x 5 x 443
1แยกตัวประกอบของ 6645 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 31 x 51 x 4431
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 5 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 443 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 6645 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 6645 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇