ตัวประกอบของ 66027 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 66027
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 66027 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 66027 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 66027 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 66027 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 66027 มีทั้งหมด 8 ตัวคือ 1, 3, 13, 39, 1693, 5079, 22009, 66027
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
66027 ÷ 1 | = | 66027 | เหลือเศษ 0 |
66027 ÷ 3 | = | 22009 | เหลือเศษ 0 |
66027 ÷ 13 | = | 5079 | เหลือเศษ 0 |
66027 ÷ 39 | = | 1693 | เหลือเศษ 0 |
66027 ÷ 1693 | = | 39 | เหลือเศษ 0 |
66027 ÷ 5079 | = | 13 | เหลือเศษ 0 |
66027 ÷ 22009 | = | 3 | เหลือเศษ 0 |
66027 ÷ 66027 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 66027
1 x 66027 | = | 66027 |
3 x 22009 | = | 66027 |
13 x 5079 | = | 66027 |
39 x 1693 | = | 66027 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 66027
1 + 3 + 13 + 39 + 1693 + 5079 + 22009 + 66027 = 94864
▶ ตัวประกอบของ 66027 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
3, 13, 1693
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 66027 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
66027 = 3 x 13 x 1693
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 66027 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 66027 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 66027 มา 1 คู่ เช่น 3 x 22009
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 66027
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 66027 แบบที่หนึ่ง
- 66027
- 39
- 3
- 13
- 1693
- 39
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 66027 แบบที่สอง
- 66027
- 3
- 22009
- 13
- 1693
ดังนั้น 66027 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
66027 =
3 x 13 x 1693
2. การแยกตัวประกอบของ 66027 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 66027 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 66027 นั้นก็คือ 3, 13, 1693 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 66027
3)6602713)220091693)16931ดังนั้น 66027 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้66027 = 3 x 13 x 1693วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 66027
1แยกตัวประกอบของ 66027 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 31 x 131 x 169312ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 13 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 1693 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 66027 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 66027 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 66027 นั้นก็คือ 3, 13, 1693 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 66027
3
)66027
13
)22009
1693
)1693
1
ดังนั้น 66027 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
66027 = 3 x 13 x 1693
1แยกตัวประกอบของ 66027 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 31 x 131 x 16931
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 13 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 1693 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 66027 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 66027 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇