ตัวประกอบของ 65757 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 65757
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 65757 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 65757 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 65757 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 65757 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 65757 มีทั้งหมด 8 ตัวคือ 1, 3, 23, 69, 953, 2859, 21919, 65757
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
65757 ÷ 1 | = | 65757 | เหลือเศษ 0 |
65757 ÷ 3 | = | 21919 | เหลือเศษ 0 |
65757 ÷ 23 | = | 2859 | เหลือเศษ 0 |
65757 ÷ 69 | = | 953 | เหลือเศษ 0 |
65757 ÷ 953 | = | 69 | เหลือเศษ 0 |
65757 ÷ 2859 | = | 23 | เหลือเศษ 0 |
65757 ÷ 21919 | = | 3 | เหลือเศษ 0 |
65757 ÷ 65757 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 65757
1 x 65757 | = | 65757 |
3 x 21919 | = | 65757 |
23 x 2859 | = | 65757 |
69 x 953 | = | 65757 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 65757
1 + 3 + 23 + 69 + 953 + 2859 + 21919 + 65757 = 91584
▶ ตัวประกอบของ 65757 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
3, 23, 953
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 65757 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
65757 = 3 x 23 x 953
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 65757 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 65757 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 65757 มา 1 คู่ เช่น 3 x 21919
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 65757
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 65757 แบบที่หนึ่ง
- 65757
- 69
- 3
- 23
- 953
- 69
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 65757 แบบที่สอง
- 65757
- 3
- 21919
- 23
- 953
ดังนั้น 65757 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
65757 =
3 x 23 x 953
2. การแยกตัวประกอบของ 65757 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 65757 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 65757 นั้นก็คือ 3, 23, 953 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 65757
3)6575723)21919953)9531ดังนั้น 65757 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้65757 = 3 x 23 x 953วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 65757
1แยกตัวประกอบของ 65757 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 31 x 231 x 95312ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 23 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 953 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 65757 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 65757 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 65757 นั้นก็คือ 3, 23, 953 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 65757
3
)65757
23
)21919
953
)953
1
ดังนั้น 65757 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
65757 = 3 x 23 x 953
1แยกตัวประกอบของ 65757 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 31 x 231 x 9531
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 23 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 953 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 65757 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 65757 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇