โปรแกรมหาตัวประกอบของจำนวนนับ
ใส่ตัวเลขที่ต้องการหาตัวประกอบ โปรแกรมจะแสดงคำตอบและวิธีการแยกตัวประกอบให้อัตโนมัติ
เทพควิช-lnwquiz

ตัวประกอบของ 65750 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 65750

คำนิยาม

ตัวประกอบของ 65750 มีอะไรบ้าง

ตัวประกอบของ 65750 มีทั้งหมด 16 ตัวคือ 1, 2, 5, 10, 25, 50, 125, 250, 263, 526, 1315, 2630, 6575, 13150, 32875, 65750
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
65750 ÷ 1=65750เหลือเศษ 0
65750 ÷ 2=32875เหลือเศษ 0
65750 ÷ 5=13150เหลือเศษ 0
65750 ÷ 10=6575เหลือเศษ 0
65750 ÷ 25=2630เหลือเศษ 0
65750 ÷ 50=1315เหลือเศษ 0
65750 ÷ 125=526เหลือเศษ 0
65750 ÷ 250=263เหลือเศษ 0
65750 ÷ 263=250เหลือเศษ 0
65750 ÷ 526=125เหลือเศษ 0
65750 ÷ 1315=50เหลือเศษ 0
65750 ÷ 2630=25เหลือเศษ 0
65750 ÷ 6575=10เหลือเศษ 0
65750 ÷ 13150=5เหลือเศษ 0
65750 ÷ 32875=2เหลือเศษ 0
65750 ÷ 65750=1เหลือเศษ 0
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 65750
1 x 65750
2 x 32875
5 x 13150
10 x 6575
25 x 2630
50 x 1315
125 x 526
250 x 263
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 65750
1 + 2 + 5 + 10 + 25 + 50 + 125 + 250 + 263 + 526 + 1315 + 2630 + 6575 + 13150 + 32875 + 65750 = 123552
ตัวประกอบของ 65750 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
2, 5, 263
การแยกตัวประกอบคืออะไร

65750 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้

65750 = 2 x 5 x 5 x 5 x 263
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 65750 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
65750 = 2 x 53 x 263
วิธีการแยกตัวประกอบ

1. การแยกตัวประกอบของ 65750 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲

วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 65750 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 65750 มา 1 คู่ เช่น 2 x 32875
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 65750
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 65750 แบบที่หนึ่ง
  • 65750
    • 250
      • 10
        • 2
        • 5
      • 25
        • 5
        • 5
    • 263

ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 65750 แบบที่สอง
  • 65750
    • 2
    • 32875
      • 5
      • 6575
        • 5
        • 1315
          • 5
          • 263
ดังนั้น 65750 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
65750 = 2 x 5 x 5 x 5 x 263
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
65750 = 2 x 53 x 263 หรือ 21 x 53 x 2631

2. การแยกตัวประกอบของ 65750 ด้วยวิธีหารสั้น

วิธีทำ
1หาร 65750 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 65750 นั้นก็คือ 2, 5, 263 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 65750

2
)65750
5
)32875
5
)6575
5
)1315
263
)263
1
ดังนั้น 65750 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
65750 = 2 x 5 x 5 x 5 x 263
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
65750 = 2 x 53 x 263 หรือ 21 x 53 x 2631

วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 65750

1แยกตัวประกอบของ 65750 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 53 x 2631
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
  • 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
  • 👉 5 มีเลขชี้กำลังคือ 3 ให้เอา 3 + 1 = 4
  • 👉 263 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 4 x 2 = 16
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 65750 มีทั้งหมด 16 ตัว
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 65750 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇