โปรแกรมหาตัวประกอบของจำนวนนับ
ใส่ตัวเลขที่ต้องการหาตัวประกอบ โปรแกรมจะแสดงคำตอบและวิธีการแยกตัวประกอบให้อัตโนมัติ
เทพควิช-lnwquiz

ตัวประกอบของ 65632 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 65632

คำนิยาม

ตัวประกอบของ 65632 มีอะไรบ้าง

ตัวประกอบของ 65632 มีทั้งหมด 24 ตัวคือ 1, 2, 4, 7, 8, 14, 16, 28, 32, 56, 112, 224, 293, 586, 1172, 2051, 2344, 4102, 4688, 8204, 9376, 16408, 32816, 65632
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
65632 ÷ 1=65632เหลือเศษ 0
65632 ÷ 2=32816เหลือเศษ 0
65632 ÷ 4=16408เหลือเศษ 0
65632 ÷ 7=9376เหลือเศษ 0
65632 ÷ 8=8204เหลือเศษ 0
65632 ÷ 14=4688เหลือเศษ 0
65632 ÷ 16=4102เหลือเศษ 0
65632 ÷ 28=2344เหลือเศษ 0
65632 ÷ 32=2051เหลือเศษ 0
65632 ÷ 56=1172เหลือเศษ 0
65632 ÷ 112=586เหลือเศษ 0
65632 ÷ 224=293เหลือเศษ 0
65632 ÷ 293=224เหลือเศษ 0
65632 ÷ 586=112เหลือเศษ 0
65632 ÷ 1172=56เหลือเศษ 0
65632 ÷ 2051=32เหลือเศษ 0
65632 ÷ 2344=28เหลือเศษ 0
65632 ÷ 4102=16เหลือเศษ 0
65632 ÷ 4688=14เหลือเศษ 0
65632 ÷ 8204=8เหลือเศษ 0
65632 ÷ 9376=7เหลือเศษ 0
65632 ÷ 16408=4เหลือเศษ 0
65632 ÷ 32816=2เหลือเศษ 0
65632 ÷ 65632=1เหลือเศษ 0
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 65632
1 x 65632
2 x 32816
4 x 16408
7 x 9376
8 x 8204
14 x 4688
16 x 4102
28 x 2344
32 x 2051
56 x 1172
112 x 586
224 x 293
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 65632
1 + 2 + 4 + 7 + 8 + 14 + 16 + 28 + 32 + 56 + 112 + 224 + 293 + 586 + 1172 + 2051 + 2344 + 4102 + 4688 + 8204 + 9376 + 16408 + 32816 + 65632 = 148176
ตัวประกอบของ 65632 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
2, 7, 293
การแยกตัวประกอบคืออะไร

65632 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้

65632 = 2 x 2 x 2 x 2 x 2 x 7 x 293
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 65632 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
65632 = 25 x 7 x 293
วิธีการแยกตัวประกอบ

1. การแยกตัวประกอบของ 65632 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲

วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 65632 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 65632 มา 1 คู่ เช่น 2 x 32816
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 65632
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 65632 แบบที่หนึ่ง
  • 65632
    • 224
      • 14
        • 2
        • 7
      • 16
        • 4
          • 2
          • 2
        • 4
          • 2
          • 2
    • 293

ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 65632 แบบที่สอง
  • 65632
    • 2
    • 32816
      • 2
      • 16408
        • 2
        • 8204
          • 2
          • 4102
            • 2
            • 2051
              • 7
              • 293
ดังนั้น 65632 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
65632 = 2 x 2 x 2 x 2 x 2 x 7 x 293
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
65632 = 25 x 7 x 293 หรือ 25 x 71 x 2931

2. การแยกตัวประกอบของ 65632 ด้วยวิธีหารสั้น

วิธีทำ
1หาร 65632 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 65632 นั้นก็คือ 2, 7, 293 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 65632

2
)65632
2
)32816
2
)16408
2
)8204
2
)4102
7
)2051
293
)293
1
ดังนั้น 65632 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
65632 = 2 x 2 x 2 x 2 x 2 x 7 x 293
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
65632 = 25 x 7 x 293 หรือ 25 x 71 x 2931

วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 65632

1แยกตัวประกอบของ 65632 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 25 x 71 x 2931
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
  • 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 5 ให้เอา 5 + 1 = 6
  • 👉 7 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
  • 👉 293 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 6 x 2 x 2 = 24
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 65632 มีทั้งหมด 24 ตัว
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 65632 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇