ตัวประกอบของ 65430 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 65430
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 65430 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 65430 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 65430 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 65430 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 65430 มีทั้งหมด 24 ตัวคือ 1, 2, 3, 5, 6, 9, 10, 15, 18, 30, 45, 90, 727, 1454, 2181, 3635, 4362, 6543, 7270, 10905, 13086, 21810, 32715, 65430
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
65430 ÷ 1 | = | 65430 | เหลือเศษ 0 |
65430 ÷ 2 | = | 32715 | เหลือเศษ 0 |
65430 ÷ 3 | = | 21810 | เหลือเศษ 0 |
65430 ÷ 5 | = | 13086 | เหลือเศษ 0 |
65430 ÷ 6 | = | 10905 | เหลือเศษ 0 |
65430 ÷ 9 | = | 7270 | เหลือเศษ 0 |
65430 ÷ 10 | = | 6543 | เหลือเศษ 0 |
65430 ÷ 15 | = | 4362 | เหลือเศษ 0 |
65430 ÷ 18 | = | 3635 | เหลือเศษ 0 |
65430 ÷ 30 | = | 2181 | เหลือเศษ 0 |
65430 ÷ 45 | = | 1454 | เหลือเศษ 0 |
65430 ÷ 90 | = | 727 | เหลือเศษ 0 |
65430 ÷ 727 | = | 90 | เหลือเศษ 0 |
65430 ÷ 1454 | = | 45 | เหลือเศษ 0 |
65430 ÷ 2181 | = | 30 | เหลือเศษ 0 |
65430 ÷ 3635 | = | 18 | เหลือเศษ 0 |
65430 ÷ 4362 | = | 15 | เหลือเศษ 0 |
65430 ÷ 6543 | = | 10 | เหลือเศษ 0 |
65430 ÷ 7270 | = | 9 | เหลือเศษ 0 |
65430 ÷ 10905 | = | 6 | เหลือเศษ 0 |
65430 ÷ 13086 | = | 5 | เหลือเศษ 0 |
65430 ÷ 21810 | = | 3 | เหลือเศษ 0 |
65430 ÷ 32715 | = | 2 | เหลือเศษ 0 |
65430 ÷ 65430 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 65430
1 x 65430 | = | 65430 |
2 x 32715 | = | 65430 |
3 x 21810 | = | 65430 |
5 x 13086 | = | 65430 |
6 x 10905 | = | 65430 |
9 x 7270 | = | 65430 |
10 x 6543 | = | 65430 |
15 x 4362 | = | 65430 |
18 x 3635 | = | 65430 |
30 x 2181 | = | 65430 |
45 x 1454 | = | 65430 |
90 x 727 | = | 65430 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 65430
1 + 2 + 3 + 5 + 6 + 9 + 10 + 15 + 18 + 30 + 45 + 90 + 727 + 1454 + 2181 + 3635 + 4362 + 6543 + 7270 + 10905 + 13086 + 21810 + 32715 + 65430 = 170352
▶ ตัวประกอบของ 65430 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 4 ตัวดังนี้
2, 3, 5, 727
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 65430 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
65430 = 2 x 3 x 3 x 5 x 727
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 65430 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
65430 = 2 x 32 x 5 x 727
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 65430 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
65430 = 2 x 32 x 5 x 727
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 65430 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 65430 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 65430 มา 1 คู่ เช่น 2 x 32715
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 65430
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 65430 แบบที่หนึ่ง
- 65430
- 90
- 9
- 3
- 3
- 10
- 2
- 5
- 9
- 727
- 90
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 65430 แบบที่สอง
- 65430
- 2
- 32715
- 3
- 10905
- 3
- 3635
- 5
- 727
ดังนั้น 65430 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
65430 =
2 x 3 x 3 x 5 x 727
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
65430 =
2 x 32 x 5 x 727 หรือ 21 x 32 x 51 x 7271
2. การแยกตัวประกอบของ 65430 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 65430 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 65430 นั้นก็คือ 2, 3, 5, 727 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 65430
2)654303)327153)109055)3635727)7271ดังนั้น 65430 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้65430 = 2 x 3 x 3 x 5 x 727หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง65430 = 2 x 32 x 5 x 727 หรือ 21 x 32 x 51 x 7271วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 65430
1แยกตัวประกอบของ 65430 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 32 x 51 x 72712ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
- 👉 5 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 727 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 3 x 2 x 2 = 24✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 65430 มีทั้งหมด 24 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 65430 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 65430 นั้นก็คือ 2, 3, 5, 727 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 65430
2
)65430
3
)32715
3
)10905
5
)3635
727
)727
1
ดังนั้น 65430 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
65430 = 2 x 3 x 3 x 5 x 727
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
65430 = 2 x 32 x 5 x 727 หรือ 21 x 32 x 51 x 7271
1แยกตัวประกอบของ 65430 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 32 x 51 x 7271
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
- 👉 5 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 727 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 3 x 2 x 2 = 24✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 65430 มีทั้งหมด 24 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 65430 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇