โปรแกรมหาตัวประกอบของจำนวนนับ
ใส่ตัวเลขที่ต้องการหาตัวประกอบ โปรแกรมจะแสดงคำตอบและวิธีการแยกตัวประกอบให้อัตโนมัติ
เทพควิช-lnwquiz

ตัวประกอบของ 65282 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 65282

คำนิยาม

ตัวประกอบของ 65282 มีอะไรบ้าง

ตัวประกอบของ 65282 มีทั้งหมด 8 ตัวคือ 1, 2, 7, 14, 4663, 9326, 32641, 65282
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
65282 ÷ 1=65282เหลือเศษ 0
65282 ÷ 2=32641เหลือเศษ 0
65282 ÷ 7=9326เหลือเศษ 0
65282 ÷ 14=4663เหลือเศษ 0
65282 ÷ 4663=14เหลือเศษ 0
65282 ÷ 9326=7เหลือเศษ 0
65282 ÷ 32641=2เหลือเศษ 0
65282 ÷ 65282=1เหลือเศษ 0
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 65282
1 x 65282
2 x 32641
7 x 9326
14 x 4663
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 65282
1 + 2 + 7 + 14 + 4663 + 9326 + 32641 + 65282 = 111936
ตัวประกอบของ 65282 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
2, 7, 4663
การแยกตัวประกอบคืออะไร

65282 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้

65282 = 2 x 7 x 4663
วิธีการแยกตัวประกอบ

1. การแยกตัวประกอบของ 65282 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲

วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 65282 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 65282 มา 1 คู่ เช่น 2 x 32641
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 65282
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 65282 แบบที่หนึ่ง
  • 65282
    • 14
      • 2
      • 7
    • 4663

ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 65282 แบบที่สอง
  • 65282
    • 2
    • 32641
      • 7
      • 4663
ดังนั้น 65282 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
65282 = 2 x 7 x 4663

2. การแยกตัวประกอบของ 65282 ด้วยวิธีหารสั้น

วิธีทำ
1หาร 65282 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 65282 นั้นก็คือ 2, 7, 4663 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 65282

2
)65282
7
)32641
4663
)4663
1
ดังนั้น 65282 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
65282 = 2 x 7 x 4663

วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 65282

1แยกตัวประกอบของ 65282 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 71 x 46631
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
  • 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
  • 👉 7 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
  • 👉 4663 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 65282 มีทั้งหมด 8 ตัว
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 65282 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇