โปรแกรมหาตัวประกอบของจำนวนนับ
ใส่ตัวเลขที่ต้องการหาตัวประกอบ โปรแกรมจะแสดงคำตอบและวิธีการแยกตัวประกอบให้อัตโนมัติ
เทพควิช-lnwquiz

ตัวประกอบของ 65275 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 65275

คำนิยาม

ตัวประกอบของ 65275 มีอะไรบ้าง

ตัวประกอบของ 65275 มีทั้งหมด 12 ตัวคือ 1, 5, 7, 25, 35, 175, 373, 1865, 2611, 9325, 13055, 65275
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
65275 ÷ 1=65275เหลือเศษ 0
65275 ÷ 5=13055เหลือเศษ 0
65275 ÷ 7=9325เหลือเศษ 0
65275 ÷ 25=2611เหลือเศษ 0
65275 ÷ 35=1865เหลือเศษ 0
65275 ÷ 175=373เหลือเศษ 0
65275 ÷ 373=175เหลือเศษ 0
65275 ÷ 1865=35เหลือเศษ 0
65275 ÷ 2611=25เหลือเศษ 0
65275 ÷ 9325=7เหลือเศษ 0
65275 ÷ 13055=5เหลือเศษ 0
65275 ÷ 65275=1เหลือเศษ 0
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 65275
1 x 65275
5 x 13055
7 x 9325
25 x 2611
35 x 1865
175 x 373
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 65275
1 + 5 + 7 + 25 + 35 + 175 + 373 + 1865 + 2611 + 9325 + 13055 + 65275 = 92752
ตัวประกอบของ 65275 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
5, 7, 373
การแยกตัวประกอบคืออะไร

65275 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้

65275 = 5 x 5 x 7 x 373
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 65275 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
65275 = 52 x 7 x 373
วิธีการแยกตัวประกอบ

1. การแยกตัวประกอบของ 65275 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲

วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 65275 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 65275 มา 1 คู่ เช่น 5 x 13055
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 65275
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 65275 แบบที่หนึ่ง
  • 65275
    • 175
      • 7
      • 25
        • 5
        • 5
    • 373

ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 65275 แบบที่สอง
  • 65275
    • 5
    • 13055
      • 5
      • 2611
        • 7
        • 373
ดังนั้น 65275 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
65275 = 5 x 5 x 7 x 373
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
65275 = 52 x 7 x 373 หรือ 52 x 71 x 3731

2. การแยกตัวประกอบของ 65275 ด้วยวิธีหารสั้น

วิธีทำ
1หาร 65275 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 65275 นั้นก็คือ 5, 7, 373 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 65275

5
)65275
5
)13055
7
)2611
373
)373
1
ดังนั้น 65275 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
65275 = 5 x 5 x 7 x 373
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
65275 = 52 x 7 x 373 หรือ 52 x 71 x 3731

วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 65275

1แยกตัวประกอบของ 65275 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 52 x 71 x 3731
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
  • 👉 5 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
  • 👉 7 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
  • 👉 373 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 3 x 2 x 2 = 12
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 65275 มีทั้งหมด 12 ตัว
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 65275 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇