ตัวประกอบของ 65220 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 65220
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 65220 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 65220 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 65220 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 65220 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 65220 มีทั้งหมด 24 ตัวคือ 1, 2, 3, 4, 5, 6, 10, 12, 15, 20, 30, 60, 1087, 2174, 3261, 4348, 5435, 6522, 10870, 13044, 16305, 21740, 32610, 65220
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
| 65220 ÷ 1 | = | 65220 | เหลือเศษ 0 |
| 65220 ÷ 2 | = | 32610 | เหลือเศษ 0 |
| 65220 ÷ 3 | = | 21740 | เหลือเศษ 0 |
| 65220 ÷ 4 | = | 16305 | เหลือเศษ 0 |
| 65220 ÷ 5 | = | 13044 | เหลือเศษ 0 |
| 65220 ÷ 6 | = | 10870 | เหลือเศษ 0 |
| 65220 ÷ 10 | = | 6522 | เหลือเศษ 0 |
| 65220 ÷ 12 | = | 5435 | เหลือเศษ 0 |
| 65220 ÷ 15 | = | 4348 | เหลือเศษ 0 |
| 65220 ÷ 20 | = | 3261 | เหลือเศษ 0 |
| 65220 ÷ 30 | = | 2174 | เหลือเศษ 0 |
| 65220 ÷ 60 | = | 1087 | เหลือเศษ 0 |
| 65220 ÷ 1087 | = | 60 | เหลือเศษ 0 |
| 65220 ÷ 2174 | = | 30 | เหลือเศษ 0 |
| 65220 ÷ 3261 | = | 20 | เหลือเศษ 0 |
| 65220 ÷ 4348 | = | 15 | เหลือเศษ 0 |
| 65220 ÷ 5435 | = | 12 | เหลือเศษ 0 |
| 65220 ÷ 6522 | = | 10 | เหลือเศษ 0 |
| 65220 ÷ 10870 | = | 6 | เหลือเศษ 0 |
| 65220 ÷ 13044 | = | 5 | เหลือเศษ 0 |
| 65220 ÷ 16305 | = | 4 | เหลือเศษ 0 |
| 65220 ÷ 21740 | = | 3 | เหลือเศษ 0 |
| 65220 ÷ 32610 | = | 2 | เหลือเศษ 0 |
| 65220 ÷ 65220 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 65220
| 1 x 65220 | = | 65220 |
| 2 x 32610 | = | 65220 |
| 3 x 21740 | = | 65220 |
| 4 x 16305 | = | 65220 |
| 5 x 13044 | = | 65220 |
| 6 x 10870 | = | 65220 |
| 10 x 6522 | = | 65220 |
| 12 x 5435 | = | 65220 |
| 15 x 4348 | = | 65220 |
| 20 x 3261 | = | 65220 |
| 30 x 2174 | = | 65220 |
| 60 x 1087 | = | 65220 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 65220
1 + 2 + 3 + 4 + 5 + 6 + 10 + 12 + 15 + 20 + 30 + 60 + 1087 + 2174 + 3261 + 4348 + 5435 + 6522 + 10870 + 13044 + 16305 + 21740 + 32610 + 65220 = 182784
▶ ตัวประกอบของ 65220 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 4 ตัวดังนี้
2, 3, 5, 1087
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 65220 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
65220 = 2 x 2 x 3 x 5 x 1087
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 65220 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
65220 = 22 x 3 x 5 x 1087
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 65220 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
65220 = 22 x 3 x 5 x 1087
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 65220 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 65220 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 65220 มา 1 คู่ เช่น 2 x 32610
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 65220
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 65220 แบบที่หนึ่ง
- 65220
- 60
- 6
- 2
- 3
- 10
- 2
- 5
- 6
- 1087
- 60
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 65220 แบบที่สอง
- 65220
- 2
- 32610
- 2
- 16305
- 3
- 5435
- 5
- 1087
ดังนั้น 65220 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
65220 =
2 x 2 x 3 x 5 x 1087
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
65220 =
22 x 3 x 5 x 1087 หรือ 22 x 31 x 51 x 10871
2. การแยกตัวประกอบของ 65220 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 65220 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 65220 นั้นก็คือ 2, 3, 5, 1087 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 65220
2)652202)326103)163055)54351087)10871ดังนั้น 65220 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้65220 = 2 x 2 x 3 x 5 x 1087หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง65220 = 22 x 3 x 5 x 1087 หรือ 22 x 31 x 51 x 10871วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 65220
1แยกตัวประกอบของ 65220 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 22 x 31 x 51 x 108712ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
- 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 5 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 1087 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 3 x 2 x 2 x 2 = 24✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 65220 มีทั้งหมด 24 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 65220 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 65220 นั้นก็คือ 2, 3, 5, 1087 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 65220
2
)65220
2
)32610
3
)16305
5
)5435
1087
)1087
1
ดังนั้น 65220 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
65220 = 2 x 2 x 3 x 5 x 1087
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
65220 = 22 x 3 x 5 x 1087 หรือ 22 x 31 x 51 x 10871
1แยกตัวประกอบของ 65220 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 22 x 31 x 51 x 10871
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
- 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 5 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 1087 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 3 x 2 x 2 x 2 = 24✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 65220 มีทั้งหมด 24 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 65220 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇