โปรแกรมหาตัวประกอบของจำนวนนับ
ใส่ตัวเลขที่ต้องการหาตัวประกอบ โปรแกรมจะแสดงคำตอบและวิธีการแยกตัวประกอบให้อัตโนมัติ
เทพควิช-lnwquiz

ตัวประกอบของ 65214 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 65214

คำนิยาม

ตัวประกอบของ 65214 มีอะไรบ้าง

ตัวประกอบของ 65214 มีทั้งหมด 12 ตัวคือ 1, 2, 3, 6, 9, 18, 3623, 7246, 10869, 21738, 32607, 65214
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
65214 ÷ 1=65214เหลือเศษ 0
65214 ÷ 2=32607เหลือเศษ 0
65214 ÷ 3=21738เหลือเศษ 0
65214 ÷ 6=10869เหลือเศษ 0
65214 ÷ 9=7246เหลือเศษ 0
65214 ÷ 18=3623เหลือเศษ 0
65214 ÷ 3623=18เหลือเศษ 0
65214 ÷ 7246=9เหลือเศษ 0
65214 ÷ 10869=6เหลือเศษ 0
65214 ÷ 21738=3เหลือเศษ 0
65214 ÷ 32607=2เหลือเศษ 0
65214 ÷ 65214=1เหลือเศษ 0
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 65214
1 x 65214
2 x 32607
3 x 21738
6 x 10869
9 x 7246
18 x 3623
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 65214
1 + 2 + 3 + 6 + 9 + 18 + 3623 + 7246 + 10869 + 21738 + 32607 + 65214 = 141336
ตัวประกอบของ 65214 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
2, 3, 3623
การแยกตัวประกอบคืออะไร

65214 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้

65214 = 2 x 3 x 3 x 3623
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 65214 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
65214 = 2 x 32 x 3623
วิธีการแยกตัวประกอบ

1. การแยกตัวประกอบของ 65214 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲

วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 65214 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 65214 มา 1 คู่ เช่น 2 x 32607
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 65214
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 65214 แบบที่หนึ่ง
  • 65214
    • 18
      • 3
      • 6
        • 2
        • 3
    • 3623

ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 65214 แบบที่สอง
  • 65214
    • 2
    • 32607
      • 3
      • 10869
        • 3
        • 3623
ดังนั้น 65214 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
65214 = 2 x 3 x 3 x 3623
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
65214 = 2 x 32 x 3623 หรือ 21 x 32 x 36231

2. การแยกตัวประกอบของ 65214 ด้วยวิธีหารสั้น

วิธีทำ
1หาร 65214 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 65214 นั้นก็คือ 2, 3, 3623 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 65214

2
)65214
3
)32607
3
)10869
3623
)3623
1
ดังนั้น 65214 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
65214 = 2 x 3 x 3 x 3623
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
65214 = 2 x 32 x 3623 หรือ 21 x 32 x 36231

วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 65214

1แยกตัวประกอบของ 65214 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 32 x 36231
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
  • 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
  • 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
  • 👉 3623 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 3 x 2 = 12
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 65214 มีทั้งหมด 12 ตัว
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 65214 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇