โปรแกรมหาตัวประกอบของจำนวนนับ
ใส่ตัวเลขที่ต้องการหาตัวประกอบ โปรแกรมจะแสดงคำตอบและวิธีการแยกตัวประกอบให้อัตโนมัติ
เทพควิช-lnwquiz

ตัวประกอบของ 65212 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 65212

คำนิยาม

ตัวประกอบของ 65212 มีอะไรบ้าง

ตัวประกอบของ 65212 มีทั้งหมด 24 ตัวคือ 1, 2, 4, 7, 14, 17, 28, 34, 68, 119, 137, 238, 274, 476, 548, 959, 1918, 2329, 3836, 4658, 9316, 16303, 32606, 65212
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
65212 ÷ 1=65212เหลือเศษ 0
65212 ÷ 2=32606เหลือเศษ 0
65212 ÷ 4=16303เหลือเศษ 0
65212 ÷ 7=9316เหลือเศษ 0
65212 ÷ 14=4658เหลือเศษ 0
65212 ÷ 17=3836เหลือเศษ 0
65212 ÷ 28=2329เหลือเศษ 0
65212 ÷ 34=1918เหลือเศษ 0
65212 ÷ 68=959เหลือเศษ 0
65212 ÷ 119=548เหลือเศษ 0
65212 ÷ 137=476เหลือเศษ 0
65212 ÷ 238=274เหลือเศษ 0
65212 ÷ 274=238เหลือเศษ 0
65212 ÷ 476=137เหลือเศษ 0
65212 ÷ 548=119เหลือเศษ 0
65212 ÷ 959=68เหลือเศษ 0
65212 ÷ 1918=34เหลือเศษ 0
65212 ÷ 2329=28เหลือเศษ 0
65212 ÷ 3836=17เหลือเศษ 0
65212 ÷ 4658=14เหลือเศษ 0
65212 ÷ 9316=7เหลือเศษ 0
65212 ÷ 16303=4เหลือเศษ 0
65212 ÷ 32606=2เหลือเศษ 0
65212 ÷ 65212=1เหลือเศษ 0
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 65212
1 x 65212
2 x 32606
4 x 16303
7 x 9316
14 x 4658
17 x 3836
28 x 2329
34 x 1918
68 x 959
119 x 548
137 x 476
238 x 274
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 65212
1 + 2 + 4 + 7 + 14 + 17 + 28 + 34 + 68 + 119 + 137 + 238 + 274 + 476 + 548 + 959 + 1918 + 2329 + 3836 + 4658 + 9316 + 16303 + 32606 + 65212 = 139104
ตัวประกอบของ 65212 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 4 ตัวดังนี้
2, 7, 17, 137
การแยกตัวประกอบคืออะไร

65212 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้

65212 = 2 x 2 x 7 x 17 x 137
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 65212 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
65212 = 22 x 7 x 17 x 137
วิธีการแยกตัวประกอบ

1. การแยกตัวประกอบของ 65212 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲

วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 65212 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 65212 มา 1 คู่ เช่น 2 x 32606
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 65212
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 65212 แบบที่หนึ่ง
  • 65212
    • 238
      • 14
        • 2
        • 7
      • 17
    • 274
      • 2
      • 137

ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 65212 แบบที่สอง
  • 65212
    • 2
    • 32606
      • 2
      • 16303
        • 7
        • 2329
          • 17
          • 137
ดังนั้น 65212 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
65212 = 2 x 2 x 7 x 17 x 137
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
65212 = 22 x 7 x 17 x 137 หรือ 22 x 71 x 171 x 1371

2. การแยกตัวประกอบของ 65212 ด้วยวิธีหารสั้น

วิธีทำ
1หาร 65212 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 65212 นั้นก็คือ 2, 7, 17, 137 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 65212

2
)65212
2
)32606
7
)16303
17
)2329
137
)137
1
ดังนั้น 65212 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
65212 = 2 x 2 x 7 x 17 x 137
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
65212 = 22 x 7 x 17 x 137 หรือ 22 x 71 x 171 x 1371

วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 65212

1แยกตัวประกอบของ 65212 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 22 x 71 x 171 x 1371
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
  • 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
  • 👉 7 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
  • 👉 17 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
  • 👉 137 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 3 x 2 x 2 x 2 = 24
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 65212 มีทั้งหมด 24 ตัว
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 65212 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇