ตัวประกอบของ 65086 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 65086
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 65086 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 65086 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 65086 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 65086 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 65086 มีทั้งหมด 8 ตัวคือ 1, 2, 7, 14, 4649, 9298, 32543, 65086
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
65086 ÷ 1 | = | 65086 | เหลือเศษ 0 |
65086 ÷ 2 | = | 32543 | เหลือเศษ 0 |
65086 ÷ 7 | = | 9298 | เหลือเศษ 0 |
65086 ÷ 14 | = | 4649 | เหลือเศษ 0 |
65086 ÷ 4649 | = | 14 | เหลือเศษ 0 |
65086 ÷ 9298 | = | 7 | เหลือเศษ 0 |
65086 ÷ 32543 | = | 2 | เหลือเศษ 0 |
65086 ÷ 65086 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 65086
1 x 65086 | = | 65086 |
2 x 32543 | = | 65086 |
7 x 9298 | = | 65086 |
14 x 4649 | = | 65086 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 65086
1 + 2 + 7 + 14 + 4649 + 9298 + 32543 + 65086 = 111600
▶ ตัวประกอบของ 65086 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
2, 7, 4649
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 65086 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
65086 = 2 x 7 x 4649
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 65086 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 65086 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 65086 มา 1 คู่ เช่น 2 x 32543
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 65086
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 65086 แบบที่หนึ่ง
- 65086
- 14
- 2
- 7
- 4649
- 14
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 65086 แบบที่สอง
- 65086
- 2
- 32543
- 7
- 4649
ดังนั้น 65086 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
65086 =
2 x 7 x 4649
2. การแยกตัวประกอบของ 65086 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 65086 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 65086 นั้นก็คือ 2, 7, 4649 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 65086
2)650867)325434649)46491ดังนั้น 65086 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้65086 = 2 x 7 x 4649วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 65086
1แยกตัวประกอบของ 65086 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 71 x 464912ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 7 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 4649 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 65086 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 65086 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 65086 นั้นก็คือ 2, 7, 4649 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 65086
2
)65086
7
)32543
4649
)4649
1
ดังนั้น 65086 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
65086 = 2 x 7 x 4649
1แยกตัวประกอบของ 65086 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 71 x 46491
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 7 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 4649 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 65086 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 65086 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇