โปรแกรมหาตัวประกอบของจำนวนนับ
ใส่ตัวเลขที่ต้องการหาตัวประกอบ โปรแกรมจะแสดงคำตอบและวิธีการแยกตัวประกอบให้อัตโนมัติ
เทพควิช-lnwquiz

ตัวประกอบของ 6464 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 6464

คำนิยาม

ตัวประกอบของ 6464 มีอะไรบ้าง

ตัวประกอบของ 6464 มีทั้งหมด 14 ตัวคือ 1, 2, 4, 8, 16, 32, 64, 101, 202, 404, 808, 1616, 3232, 6464
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
6464 ÷ 1=6464เหลือเศษ 0
6464 ÷ 2=3232เหลือเศษ 0
6464 ÷ 4=1616เหลือเศษ 0
6464 ÷ 8=808เหลือเศษ 0
6464 ÷ 16=404เหลือเศษ 0
6464 ÷ 32=202เหลือเศษ 0
6464 ÷ 64=101เหลือเศษ 0
6464 ÷ 101=64เหลือเศษ 0
6464 ÷ 202=32เหลือเศษ 0
6464 ÷ 404=16เหลือเศษ 0
6464 ÷ 808=8เหลือเศษ 0
6464 ÷ 1616=4เหลือเศษ 0
6464 ÷ 3232=2เหลือเศษ 0
6464 ÷ 6464=1เหลือเศษ 0
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 6464
1 x 6464
2 x 3232
4 x 1616
8 x 808
16 x 404
32 x 202
64 x 101
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 6464
1 + 2 + 4 + 8 + 16 + 32 + 64 + 101 + 202 + 404 + 808 + 1616 + 3232 + 6464 = 12954
ตัวประกอบของ 6464 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 2 ตัวดังนี้
2, 101
การแยกตัวประกอบคืออะไร

6464 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้

6464 = 2 x 2 x 2 x 2 x 2 x 2 x 101
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 6464 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
6464 = 26 x 101
วิธีการแยกตัวประกอบ

1. การแยกตัวประกอบของ 6464 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲

วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 6464 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 6464 มา 1 คู่ เช่น 2 x 3232
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 6464
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 6464 แบบที่หนึ่ง
  • 6464
    • 64
      • 8
        • 2
        • 4
          • 2
          • 2
      • 8
        • 2
        • 4
          • 2
          • 2
    • 101

ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 6464 แบบที่สอง
  • 6464
    • 2
    • 3232
      • 2
      • 1616
        • 2
        • 808
          • 2
          • 404
            • 2
            • 202
              • 2
              • 101
ดังนั้น 6464 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
6464 = 2 x 2 x 2 x 2 x 2 x 2 x 101
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
6464 = 26 x 101 หรือ 26 x 1011

2. การแยกตัวประกอบของ 6464 ด้วยวิธีหารสั้น

วิธีทำ
1หาร 6464 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 6464 นั้นก็คือ 2, 101 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 6464

2
)6464
2
)3232
2
)1616
2
)808
2
)404
2
)202
101
)101
1
ดังนั้น 6464 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
6464 = 2 x 2 x 2 x 2 x 2 x 2 x 101
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
6464 = 26 x 101 หรือ 26 x 1011

วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 6464

1แยกตัวประกอบของ 6464 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 26 x 1011
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
  • 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 6 ให้เอา 6 + 1 = 7
  • 👉 101 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 7 x 2 = 14
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 6464 มีทั้งหมด 14 ตัว
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 6464 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇