ตัวประกอบของ 6126 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 6126
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 6126 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 6126 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 6126 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 6126 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 6126 มีทั้งหมด 8 ตัวคือ 1, 2, 3, 6, 1021, 2042, 3063, 6126
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
6126 ÷ 1 | = | 6126 | เหลือเศษ 0 |
6126 ÷ 2 | = | 3063 | เหลือเศษ 0 |
6126 ÷ 3 | = | 2042 | เหลือเศษ 0 |
6126 ÷ 6 | = | 1021 | เหลือเศษ 0 |
6126 ÷ 1021 | = | 6 | เหลือเศษ 0 |
6126 ÷ 2042 | = | 3 | เหลือเศษ 0 |
6126 ÷ 3063 | = | 2 | เหลือเศษ 0 |
6126 ÷ 6126 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 6126
1 x 6126 | = | 6126 |
2 x 3063 | = | 6126 |
3 x 2042 | = | 6126 |
6 x 1021 | = | 6126 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 6126
1 + 2 + 3 + 6 + 1021 + 2042 + 3063 + 6126 = 12264
▶ ตัวประกอบของ 6126 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
2, 3, 1021
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 6126 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
6126 = 2 x 3 x 1021
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 6126 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 6126 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 6126 มา 1 คู่ เช่น 2 x 3063
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 6126
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 6126 แบบที่หนึ่ง
- 6126
- 6
- 2
- 3
- 1021
- 6
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 6126 แบบที่สอง
- 6126
- 2
- 3063
- 3
- 1021
ดังนั้น 6126 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
6126 =
2 x 3 x 1021
2. การแยกตัวประกอบของ 6126 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 6126 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 6126 นั้นก็คือ 2, 3, 1021 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 6126
2)61263)30631021)10211ดังนั้น 6126 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้6126 = 2 x 3 x 1021วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 6126
1แยกตัวประกอบของ 6126 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 31 x 102112ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 1021 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 6126 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 6126 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 6126 นั้นก็คือ 2, 3, 1021 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 6126
2
)6126
3
)3063
1021
)1021
1
ดังนั้น 6126 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
6126 = 2 x 3 x 1021
1แยกตัวประกอบของ 6126 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 31 x 10211
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 1021 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 6126 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 6126 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇