โปรแกรมหาตัวประกอบของจำนวนนับ
ใส่ตัวเลขที่ต้องการหาตัวประกอบ โปรแกรมจะแสดงคำตอบและวิธีการแยกตัวประกอบให้อัตโนมัติ
เทพควิช-lnwquiz

ตัวประกอบของ 5887 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 5887

คำนิยาม

ตัวประกอบของ 5887 มีอะไรบ้าง

ตัวประกอบของ 5887 มีทั้งหมด 6 ตัวคือ 1, 7, 29, 203, 841, 5887
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
5887 ÷ 1=5887เหลือเศษ 0
5887 ÷ 7=841เหลือเศษ 0
5887 ÷ 29=203เหลือเศษ 0
5887 ÷ 203=29เหลือเศษ 0
5887 ÷ 841=7เหลือเศษ 0
5887 ÷ 5887=1เหลือเศษ 0
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 5887
1 x 5887
7 x 841
29 x 203
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 5887
1 + 7 + 29 + 203 + 841 + 5887 = 6968
ตัวประกอบของ 5887 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 2 ตัวดังนี้
7, 29
การแยกตัวประกอบคืออะไร

5887 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้

5887 = 7 x 29 x 29
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 5887 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
5887 = 7 x 292
วิธีการแยกตัวประกอบ

1. การแยกตัวประกอบของ 5887 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲

วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 5887 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 5887 มา 1 คู่ เช่น 7 x 841
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 5887
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 5887 แบบที่หนึ่ง
  • 5887
    • 29
    • 203
      • 7
      • 29

ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 5887 แบบที่สอง
  • 5887
    • 7
    • 841
      • 29
      • 29
ดังนั้น 5887 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
5887 = 7 x 29 x 29
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
5887 = 7 x 292 หรือ 71 x 292

2. การแยกตัวประกอบของ 5887 ด้วยวิธีหารสั้น

วิธีทำ
1หาร 5887 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 5887 นั้นก็คือ 7, 29 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 5887

7
)5887
29
)841
29
)29
1
ดังนั้น 5887 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
5887 = 7 x 29 x 29
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
5887 = 7 x 292 หรือ 71 x 292

วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 5887

1แยกตัวประกอบของ 5887 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 71 x 292
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
  • 👉 7 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
  • 👉 29 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 3 = 6
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 5887 มีทั้งหมด 6 ตัว
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 5887 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇