ตัวประกอบของ 5842 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 5842
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 5842 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 5842 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 5842 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 5842 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 5842 มีทั้งหมด 8 ตัวคือ 1, 2, 23, 46, 127, 254, 2921, 5842
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
5842 ÷ 1 | = | 5842 | เหลือเศษ 0 |
5842 ÷ 2 | = | 2921 | เหลือเศษ 0 |
5842 ÷ 23 | = | 254 | เหลือเศษ 0 |
5842 ÷ 46 | = | 127 | เหลือเศษ 0 |
5842 ÷ 127 | = | 46 | เหลือเศษ 0 |
5842 ÷ 254 | = | 23 | เหลือเศษ 0 |
5842 ÷ 2921 | = | 2 | เหลือเศษ 0 |
5842 ÷ 5842 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 5842
1 x 5842 | = | 5842 |
2 x 2921 | = | 5842 |
23 x 254 | = | 5842 |
46 x 127 | = | 5842 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 5842
1 + 2 + 23 + 46 + 127 + 254 + 2921 + 5842 = 9216
▶ ตัวประกอบของ 5842 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
2, 23, 127
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 5842 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
5842 = 2 x 23 x 127
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 5842 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 5842 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 5842 มา 1 คู่ เช่น 2 x 2921
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 5842
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 5842 แบบที่หนึ่ง
- 5842
- 46
- 2
- 23
- 127
- 46
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 5842 แบบที่สอง
- 5842
- 2
- 2921
- 23
- 127
ดังนั้น 5842 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
5842 =
2 x 23 x 127
2. การแยกตัวประกอบของ 5842 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 5842 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 5842 นั้นก็คือ 2, 23, 127 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 5842
2)584223)2921127)1271ดังนั้น 5842 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้5842 = 2 x 23 x 127วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 5842
1แยกตัวประกอบของ 5842 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 231 x 12712ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 23 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 127 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 5842 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 5842 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 5842 นั้นก็คือ 2, 23, 127 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 5842
2
)5842
23
)2921
127
)127
1
ดังนั้น 5842 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
5842 = 2 x 23 x 127
1แยกตัวประกอบของ 5842 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 231 x 1271
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 23 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 127 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 5842 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 5842 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇