ตัวประกอบของ 5575 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 5575
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 5575 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 5575 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 5575 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 5575 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 5575 มีทั้งหมด 6 ตัวคือ 1, 5, 25, 223, 1115, 5575
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
5575 ÷ 1 | = | 5575 | เหลือเศษ 0 |
5575 ÷ 5 | = | 1115 | เหลือเศษ 0 |
5575 ÷ 25 | = | 223 | เหลือเศษ 0 |
5575 ÷ 223 | = | 25 | เหลือเศษ 0 |
5575 ÷ 1115 | = | 5 | เหลือเศษ 0 |
5575 ÷ 5575 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 5575
1 x 5575 | = | 5575 |
5 x 1115 | = | 5575 |
25 x 223 | = | 5575 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 5575
1 + 5 + 25 + 223 + 1115 + 5575 = 6944
▶ ตัวประกอบของ 5575 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 2 ตัวดังนี้
5, 223
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 5575 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
5575 = 5 x 5 x 223
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 5575 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
5575 = 52 x 223
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 5575 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
5575 = 52 x 223
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 5575 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 5575 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 5575 มา 1 คู่ เช่น 5 x 1115
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 5575
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 5575 แบบที่หนึ่ง
- 5575
- 25
- 5
- 5
- 223
- 25
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 5575 แบบที่สอง
- 5575
- 5
- 1115
- 5
- 223
ดังนั้น 5575 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
5575 =
5 x 5 x 223
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
5575 =
52 x 223 หรือ 52 x 2231
2. การแยกตัวประกอบของ 5575 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 5575 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 5575 นั้นก็คือ 5, 223 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 5575
5)55755)1115223)2231ดังนั้น 5575 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้5575 = 5 x 5 x 223หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง5575 = 52 x 223 หรือ 52 x 2231วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 5575
1แยกตัวประกอบของ 5575 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 52 x 22312ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 5 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
- 👉 223 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 3 x 2 = 6✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 5575 มีทั้งหมด 6 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 5575 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 5575 นั้นก็คือ 5, 223 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 5575
5
)5575
5
)1115
223
)223
1
ดังนั้น 5575 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
5575 = 5 x 5 x 223
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
5575 = 52 x 223 หรือ 52 x 2231
1แยกตัวประกอบของ 5575 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 52 x 2231
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 5 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
- 👉 223 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 3 x 2 = 6✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 5575 มีทั้งหมด 6 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 5575 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇