ตัวประกอบของ 5295 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 5295
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 5295 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 5295 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 5295 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 5295 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 5295 มีทั้งหมด 8 ตัวคือ 1, 3, 5, 15, 353, 1059, 1765, 5295
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
5295 ÷ 1 | = | 5295 | เหลือเศษ 0 |
5295 ÷ 3 | = | 1765 | เหลือเศษ 0 |
5295 ÷ 5 | = | 1059 | เหลือเศษ 0 |
5295 ÷ 15 | = | 353 | เหลือเศษ 0 |
5295 ÷ 353 | = | 15 | เหลือเศษ 0 |
5295 ÷ 1059 | = | 5 | เหลือเศษ 0 |
5295 ÷ 1765 | = | 3 | เหลือเศษ 0 |
5295 ÷ 5295 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 5295
1 x 5295 | = | 5295 |
3 x 1765 | = | 5295 |
5 x 1059 | = | 5295 |
15 x 353 | = | 5295 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 5295
1 + 3 + 5 + 15 + 353 + 1059 + 1765 + 5295 = 8496
▶ ตัวประกอบของ 5295 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
3, 5, 353
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 5295 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
5295 = 3 x 5 x 353
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 5295 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 5295 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 5295 มา 1 คู่ เช่น 3 x 1765
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 5295
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 5295 แบบที่หนึ่ง
- 5295
- 15
- 3
- 5
- 353
- 15
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 5295 แบบที่สอง
- 5295
- 3
- 1765
- 5
- 353
ดังนั้น 5295 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
5295 =
3 x 5 x 353
2. การแยกตัวประกอบของ 5295 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 5295 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 5295 นั้นก็คือ 3, 5, 353 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 5295
3)52955)1765353)3531ดังนั้น 5295 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้5295 = 3 x 5 x 353วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 5295
1แยกตัวประกอบของ 5295 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 31 x 51 x 35312ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 5 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 353 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 5295 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 5295 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 5295 นั้นก็คือ 3, 5, 353 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 5295
3
)5295
5
)1765
353
)353
1
ดังนั้น 5295 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
5295 = 3 x 5 x 353
1แยกตัวประกอบของ 5295 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 31 x 51 x 3531
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 5 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 353 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 5295 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 5295 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇