ตัวประกอบของ 5030 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 5030
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 5030 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 5030 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 5030 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 5030 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 5030 มีทั้งหมด 8 ตัวคือ 1, 2, 5, 10, 503, 1006, 2515, 5030
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
| 5030 ÷ 1 | = | 5030 | เหลือเศษ 0 |
| 5030 ÷ 2 | = | 2515 | เหลือเศษ 0 |
| 5030 ÷ 5 | = | 1006 | เหลือเศษ 0 |
| 5030 ÷ 10 | = | 503 | เหลือเศษ 0 |
| 5030 ÷ 503 | = | 10 | เหลือเศษ 0 |
| 5030 ÷ 1006 | = | 5 | เหลือเศษ 0 |
| 5030 ÷ 2515 | = | 2 | เหลือเศษ 0 |
| 5030 ÷ 5030 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 5030
| 1 x 5030 | = | 5030 |
| 2 x 2515 | = | 5030 |
| 5 x 1006 | = | 5030 |
| 10 x 503 | = | 5030 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 5030
1 + 2 + 5 + 10 + 503 + 1006 + 2515 + 5030 = 9072
▶ ตัวประกอบของ 5030 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
2, 5, 503
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 5030 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
5030 = 2 x 5 x 503
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 5030 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 5030 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 5030 มา 1 คู่ เช่น 2 x 2515
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 5030
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 5030 แบบที่หนึ่ง
- 5030
- 10
- 2
- 5
- 503
- 10
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 5030 แบบที่สอง
- 5030
- 2
- 2515
- 5
- 503
ดังนั้น 5030 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
5030 =
2 x 5 x 503
2. การแยกตัวประกอบของ 5030 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 5030 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 5030 นั้นก็คือ 2, 5, 503 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 5030
2)50305)2515503)5031ดังนั้น 5030 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้5030 = 2 x 5 x 503วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 5030
1แยกตัวประกอบของ 5030 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 51 x 50312ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 5 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 503 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 5030 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 5030 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 5030 นั้นก็คือ 2, 5, 503 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 5030
2
)5030
5
)2515
503
)503
1
ดังนั้น 5030 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
5030 = 2 x 5 x 503
1แยกตัวประกอบของ 5030 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 51 x 5031
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 5 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 503 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 5030 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 5030 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇