ตัวประกอบของ 4886 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 4886
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 4886 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 4886 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 4886 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 4886 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 4886 มีทั้งหมด 8 ตัวคือ 1, 2, 7, 14, 349, 698, 2443, 4886
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
| 4886 ÷ 1 | = | 4886 | เหลือเศษ 0 |
| 4886 ÷ 2 | = | 2443 | เหลือเศษ 0 |
| 4886 ÷ 7 | = | 698 | เหลือเศษ 0 |
| 4886 ÷ 14 | = | 349 | เหลือเศษ 0 |
| 4886 ÷ 349 | = | 14 | เหลือเศษ 0 |
| 4886 ÷ 698 | = | 7 | เหลือเศษ 0 |
| 4886 ÷ 2443 | = | 2 | เหลือเศษ 0 |
| 4886 ÷ 4886 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 4886
| 1 x 4886 | = | 4886 |
| 2 x 2443 | = | 4886 |
| 7 x 698 | = | 4886 |
| 14 x 349 | = | 4886 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 4886
1 + 2 + 7 + 14 + 349 + 698 + 2443 + 4886 = 8400
▶ ตัวประกอบของ 4886 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
2, 7, 349
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 4886 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
4886 = 2 x 7 x 349
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 4886 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 4886 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 4886 มา 1 คู่ เช่น 2 x 2443
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 4886
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 4886 แบบที่หนึ่ง
- 4886
- 14
- 2
- 7
- 349
- 14
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 4886 แบบที่สอง
- 4886
- 2
- 2443
- 7
- 349
ดังนั้น 4886 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
4886 =
2 x 7 x 349
2. การแยกตัวประกอบของ 4886 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 4886 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 4886 นั้นก็คือ 2, 7, 349 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 4886
2)48867)2443349)3491ดังนั้น 4886 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้4886 = 2 x 7 x 349วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 4886
1แยกตัวประกอบของ 4886 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 71 x 34912ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 7 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 349 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 4886 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 4886 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 4886 นั้นก็คือ 2, 7, 349 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 4886
2
)4886
7
)2443
349
)349
1
ดังนั้น 4886 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
4886 = 2 x 7 x 349
1แยกตัวประกอบของ 4886 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 71 x 3491
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 7 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 349 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 4886 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 4886 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇