ตัวประกอบของ 4707 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 4707
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 4707 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 4707 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 4707 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 4707 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 4707 มีทั้งหมด 6 ตัวคือ 1, 3, 9, 523, 1569, 4707
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
4707 ÷ 1 | = | 4707 | เหลือเศษ 0 |
4707 ÷ 3 | = | 1569 | เหลือเศษ 0 |
4707 ÷ 9 | = | 523 | เหลือเศษ 0 |
4707 ÷ 523 | = | 9 | เหลือเศษ 0 |
4707 ÷ 1569 | = | 3 | เหลือเศษ 0 |
4707 ÷ 4707 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 4707
1 x 4707 | = | 4707 |
3 x 1569 | = | 4707 |
9 x 523 | = | 4707 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 4707
1 + 3 + 9 + 523 + 1569 + 4707 = 6812
▶ ตัวประกอบของ 4707 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 2 ตัวดังนี้
3, 523
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 4707 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
4707 = 3 x 3 x 523
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 4707 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
4707 = 32 x 523
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 4707 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
4707 = 32 x 523
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 4707 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 4707 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 4707 มา 1 คู่ เช่น 3 x 1569
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 4707
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 4707 แบบที่หนึ่ง
- 4707
- 9
- 3
- 3
- 523
- 9
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 4707 แบบที่สอง
- 4707
- 3
- 1569
- 3
- 523
ดังนั้น 4707 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
4707 =
3 x 3 x 523
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
4707 =
32 x 523 หรือ 32 x 5231
2. การแยกตัวประกอบของ 4707 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 4707 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 4707 นั้นก็คือ 3, 523 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 4707
3)47073)1569523)5231ดังนั้น 4707 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้4707 = 3 x 3 x 523หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง4707 = 32 x 523 หรือ 32 x 5231วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 4707
1แยกตัวประกอบของ 4707 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 32 x 52312ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
- 👉 523 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 3 x 2 = 6✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 4707 มีทั้งหมด 6 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 4707 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 4707 นั้นก็คือ 3, 523 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 4707
3
)4707
3
)1569
523
)523
1
ดังนั้น 4707 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
4707 = 3 x 3 x 523
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
4707 = 32 x 523 หรือ 32 x 5231
1แยกตัวประกอบของ 4707 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 32 x 5231
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
- 👉 523 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 3 x 2 = 6✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 4707 มีทั้งหมด 6 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 4707 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇