ตัวประกอบของ 35004 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 35004
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 35004 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 35004 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 35004 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 35004 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 35004 มีทั้งหมด 12 ตัวคือ 1, 2, 3, 4, 6, 12, 2917, 5834, 8751, 11668, 17502, 35004
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
35004 ÷ 1 | = | 35004 | เหลือเศษ 0 |
35004 ÷ 2 | = | 17502 | เหลือเศษ 0 |
35004 ÷ 3 | = | 11668 | เหลือเศษ 0 |
35004 ÷ 4 | = | 8751 | เหลือเศษ 0 |
35004 ÷ 6 | = | 5834 | เหลือเศษ 0 |
35004 ÷ 12 | = | 2917 | เหลือเศษ 0 |
35004 ÷ 2917 | = | 12 | เหลือเศษ 0 |
35004 ÷ 5834 | = | 6 | เหลือเศษ 0 |
35004 ÷ 8751 | = | 4 | เหลือเศษ 0 |
35004 ÷ 11668 | = | 3 | เหลือเศษ 0 |
35004 ÷ 17502 | = | 2 | เหลือเศษ 0 |
35004 ÷ 35004 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 35004
1 x 35004 | = | 35004 |
2 x 17502 | = | 35004 |
3 x 11668 | = | 35004 |
4 x 8751 | = | 35004 |
6 x 5834 | = | 35004 |
12 x 2917 | = | 35004 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 35004
1 + 2 + 3 + 4 + 6 + 12 + 2917 + 5834 + 8751 + 11668 + 17502 + 35004 = 81704
▶ ตัวประกอบของ 35004 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
2, 3, 2917
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 35004 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
35004 = 2 x 2 x 3 x 2917
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 35004 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
35004 = 22 x 3 x 2917
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 35004 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
35004 = 22 x 3 x 2917
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 35004 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 35004 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 35004 มา 1 คู่ เช่น 2 x 17502
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 35004
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 35004 แบบที่หนึ่ง
- 35004
- 12
- 3
- 4
- 2
- 2
- 2917
- 12
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 35004 แบบที่สอง
- 35004
- 2
- 17502
- 2
- 8751
- 3
- 2917
ดังนั้น 35004 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
35004 =
2 x 2 x 3 x 2917
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
35004 =
22 x 3 x 2917 หรือ 22 x 31 x 29171
2. การแยกตัวประกอบของ 35004 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 35004 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 35004 นั้นก็คือ 2, 3, 2917 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 35004
2)350042)175023)87512917)29171ดังนั้น 35004 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้35004 = 2 x 2 x 3 x 2917หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง35004 = 22 x 3 x 2917 หรือ 22 x 31 x 29171วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 35004
1แยกตัวประกอบของ 35004 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 22 x 31 x 291712ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
- 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 2917 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 3 x 2 x 2 = 12✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 35004 มีทั้งหมด 12 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 35004 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 35004 นั้นก็คือ 2, 3, 2917 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 35004
2
)35004
2
)17502
3
)8751
2917
)2917
1
ดังนั้น 35004 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
35004 = 2 x 2 x 3 x 2917
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
35004 = 22 x 3 x 2917 หรือ 22 x 31 x 29171
1แยกตัวประกอบของ 35004 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 22 x 31 x 29171
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
- 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 2917 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 3 x 2 x 2 = 12✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 35004 มีทั้งหมด 12 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 35004 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇