ตัวประกอบของ 3367 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 3367
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 3367 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 3367 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 3367 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 3367 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 3367 มีทั้งหมด 8 ตัวคือ 1, 7, 13, 37, 91, 259, 481, 3367
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
3367 ÷ 1 | = | 3367 | เหลือเศษ 0 |
3367 ÷ 7 | = | 481 | เหลือเศษ 0 |
3367 ÷ 13 | = | 259 | เหลือเศษ 0 |
3367 ÷ 37 | = | 91 | เหลือเศษ 0 |
3367 ÷ 91 | = | 37 | เหลือเศษ 0 |
3367 ÷ 259 | = | 13 | เหลือเศษ 0 |
3367 ÷ 481 | = | 7 | เหลือเศษ 0 |
3367 ÷ 3367 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 3367
1 x 3367 | = | 3367 |
7 x 481 | = | 3367 |
13 x 259 | = | 3367 |
37 x 91 | = | 3367 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 3367
1 + 7 + 13 + 37 + 91 + 259 + 481 + 3367 = 4256
▶ ตัวประกอบของ 3367 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
7, 13, 37
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 3367 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
3367 = 7 x 13 x 37
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 3367 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 3367 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 3367 มา 1 คู่ เช่น 7 x 481
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 3367
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 3367 แบบที่หนึ่ง
- 3367
- 37
- 91
- 7
- 13
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 3367 แบบที่สอง
- 3367
- 7
- 481
- 13
- 37
ดังนั้น 3367 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
3367 =
7 x 13 x 37
2. การแยกตัวประกอบของ 3367 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 3367 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 3367 นั้นก็คือ 7, 13, 37 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 3367
7)336713)48137)371ดังนั้น 3367 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้3367 = 7 x 13 x 37วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 3367
1แยกตัวประกอบของ 3367 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 71 x 131 x 3712ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 7 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 13 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 37 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 3367 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 3367 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 3367 นั้นก็คือ 7, 13, 37 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 3367
7
)3367
13
)481
37
)37
1
ดังนั้น 3367 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
3367 = 7 x 13 x 37
1แยกตัวประกอบของ 3367 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 71 x 131 x 371
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 7 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 13 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 37 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 3367 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 3367 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇