ตัวประกอบของ 26512 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 26512
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 26512 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 26512 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 26512 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 26512 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 26512 มีทั้งหมด 10 ตัวคือ 1, 2, 4, 8, 16, 1657, 3314, 6628, 13256, 26512
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
| 26512 ÷ 1 | = | 26512 | เหลือเศษ 0 |
| 26512 ÷ 2 | = | 13256 | เหลือเศษ 0 |
| 26512 ÷ 4 | = | 6628 | เหลือเศษ 0 |
| 26512 ÷ 8 | = | 3314 | เหลือเศษ 0 |
| 26512 ÷ 16 | = | 1657 | เหลือเศษ 0 |
| 26512 ÷ 1657 | = | 16 | เหลือเศษ 0 |
| 26512 ÷ 3314 | = | 8 | เหลือเศษ 0 |
| 26512 ÷ 6628 | = | 4 | เหลือเศษ 0 |
| 26512 ÷ 13256 | = | 2 | เหลือเศษ 0 |
| 26512 ÷ 26512 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 26512
| 1 x 26512 | = | 26512 |
| 2 x 13256 | = | 26512 |
| 4 x 6628 | = | 26512 |
| 8 x 3314 | = | 26512 |
| 16 x 1657 | = | 26512 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 26512
1 + 2 + 4 + 8 + 16 + 1657 + 3314 + 6628 + 13256 + 26512 = 51398
▶ ตัวประกอบของ 26512 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 2 ตัวดังนี้
2, 1657
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 26512 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
26512 = 2 x 2 x 2 x 2 x 1657
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 26512 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
26512 = 24 x 1657
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 26512 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
26512 = 24 x 1657
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 26512 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 26512 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 26512 มา 1 คู่ เช่น 2 x 13256
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 26512
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 26512 แบบที่หนึ่ง
- 26512
- 16
- 4
- 2
- 2
- 4
- 2
- 2
- 4
- 1657
- 16
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 26512 แบบที่สอง
- 26512
- 2
- 13256
- 2
- 6628
- 2
- 3314
- 2
- 1657
ดังนั้น 26512 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
26512 =
2 x 2 x 2 x 2 x 1657
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
26512 =
24 x 1657 หรือ 24 x 16571
2. การแยกตัวประกอบของ 26512 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 26512 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 26512 นั้นก็คือ 2, 1657 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 26512
2)265122)132562)66282)33141657)16571ดังนั้น 26512 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้26512 = 2 x 2 x 2 x 2 x 1657หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง26512 = 24 x 1657 หรือ 24 x 16571วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 26512
1แยกตัวประกอบของ 26512 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 24 x 165712ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 4 ให้เอา 4 + 1 = 5
- 👉 1657 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 5 x 2 = 10✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 26512 มีทั้งหมด 10 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 26512 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 26512 นั้นก็คือ 2, 1657 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 26512
2
)26512
2
)13256
2
)6628
2
)3314
1657
)1657
1
ดังนั้น 26512 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
26512 = 2 x 2 x 2 x 2 x 1657
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
26512 = 24 x 1657 หรือ 24 x 16571
1แยกตัวประกอบของ 26512 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 24 x 16571
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 4 ให้เอา 4 + 1 = 5
- 👉 1657 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 5 x 2 = 10✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 26512 มีทั้งหมด 10 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 26512 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇
