ตัวประกอบของ 26256 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 26256
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 26256 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 26256 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 26256 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 26256 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 26256 มีทั้งหมด 20 ตัวคือ 1, 2, 3, 4, 6, 8, 12, 16, 24, 48, 547, 1094, 1641, 2188, 3282, 4376, 6564, 8752, 13128, 26256
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
| 26256 ÷ 1 | = | 26256 | เหลือเศษ 0 |
| 26256 ÷ 2 | = | 13128 | เหลือเศษ 0 |
| 26256 ÷ 3 | = | 8752 | เหลือเศษ 0 |
| 26256 ÷ 4 | = | 6564 | เหลือเศษ 0 |
| 26256 ÷ 6 | = | 4376 | เหลือเศษ 0 |
| 26256 ÷ 8 | = | 3282 | เหลือเศษ 0 |
| 26256 ÷ 12 | = | 2188 | เหลือเศษ 0 |
| 26256 ÷ 16 | = | 1641 | เหลือเศษ 0 |
| 26256 ÷ 24 | = | 1094 | เหลือเศษ 0 |
| 26256 ÷ 48 | = | 547 | เหลือเศษ 0 |
| 26256 ÷ 547 | = | 48 | เหลือเศษ 0 |
| 26256 ÷ 1094 | = | 24 | เหลือเศษ 0 |
| 26256 ÷ 1641 | = | 16 | เหลือเศษ 0 |
| 26256 ÷ 2188 | = | 12 | เหลือเศษ 0 |
| 26256 ÷ 3282 | = | 8 | เหลือเศษ 0 |
| 26256 ÷ 4376 | = | 6 | เหลือเศษ 0 |
| 26256 ÷ 6564 | = | 4 | เหลือเศษ 0 |
| 26256 ÷ 8752 | = | 3 | เหลือเศษ 0 |
| 26256 ÷ 13128 | = | 2 | เหลือเศษ 0 |
| 26256 ÷ 26256 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 26256
| 1 x 26256 | = | 26256 |
| 2 x 13128 | = | 26256 |
| 3 x 8752 | = | 26256 |
| 4 x 6564 | = | 26256 |
| 6 x 4376 | = | 26256 |
| 8 x 3282 | = | 26256 |
| 12 x 2188 | = | 26256 |
| 16 x 1641 | = | 26256 |
| 24 x 1094 | = | 26256 |
| 48 x 547 | = | 26256 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 26256
1 + 2 + 3 + 4 + 6 + 8 + 12 + 16 + 24 + 48 + 547 + 1094 + 1641 + 2188 + 3282 + 4376 + 6564 + 8752 + 13128 + 26256 = 67952
▶ ตัวประกอบของ 26256 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
2, 3, 547
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 26256 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
26256 = 2 x 2 x 2 x 2 x 3 x 547
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 26256 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
26256 = 24 x 3 x 547
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 26256 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
26256 = 24 x 3 x 547
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 26256 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 26256 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 26256 มา 1 คู่ เช่น 2 x 13128
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 26256
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 26256 แบบที่หนึ่ง
- 26256
- 48
- 6
- 2
- 3
- 8
- 2
- 4
- 2
- 2
- 6
- 547
- 48
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 26256 แบบที่สอง
- 26256
- 2
- 13128
- 2
- 6564
- 2
- 3282
- 2
- 1641
- 3
- 547
ดังนั้น 26256 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
26256 =
2 x 2 x 2 x 2 x 3 x 547
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
26256 =
24 x 3 x 547 หรือ 24 x 31 x 5471
2. การแยกตัวประกอบของ 26256 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 26256 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 26256 นั้นก็คือ 2, 3, 547 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 26256
2)262562)131282)65642)32823)1641547)5471ดังนั้น 26256 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้26256 = 2 x 2 x 2 x 2 x 3 x 547หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง26256 = 24 x 3 x 547 หรือ 24 x 31 x 5471วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 26256
1แยกตัวประกอบของ 26256 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 24 x 31 x 54712ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 4 ให้เอา 4 + 1 = 5
- 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 547 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 5 x 2 x 2 = 20✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 26256 มีทั้งหมด 20 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 26256 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 26256 นั้นก็คือ 2, 3, 547 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 26256
2
)26256
2
)13128
2
)6564
2
)3282
3
)1641
547
)547
1
ดังนั้น 26256 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
26256 = 2 x 2 x 2 x 2 x 3 x 547
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
26256 = 24 x 3 x 547 หรือ 24 x 31 x 5471
1แยกตัวประกอบของ 26256 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 24 x 31 x 5471
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 4 ให้เอา 4 + 1 = 5
- 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 547 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 5 x 2 x 2 = 20✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 26256 มีทั้งหมด 20 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 26256 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇
