ตัวประกอบของ 25653 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 25653
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 25653 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 25653 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 25653 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 25653 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 25653 มีทั้งหมด 8 ตัวคือ 1, 3, 17, 51, 503, 1509, 8551, 25653
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
| 25653 ÷ 1 | = | 25653 | เหลือเศษ 0 |
| 25653 ÷ 3 | = | 8551 | เหลือเศษ 0 |
| 25653 ÷ 17 | = | 1509 | เหลือเศษ 0 |
| 25653 ÷ 51 | = | 503 | เหลือเศษ 0 |
| 25653 ÷ 503 | = | 51 | เหลือเศษ 0 |
| 25653 ÷ 1509 | = | 17 | เหลือเศษ 0 |
| 25653 ÷ 8551 | = | 3 | เหลือเศษ 0 |
| 25653 ÷ 25653 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 25653
| 1 x 25653 | = | 25653 |
| 3 x 8551 | = | 25653 |
| 17 x 1509 | = | 25653 |
| 51 x 503 | = | 25653 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 25653
1 + 3 + 17 + 51 + 503 + 1509 + 8551 + 25653 = 36288
▶ ตัวประกอบของ 25653 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
3, 17, 503
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 25653 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
25653 = 3 x 17 x 503
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 25653 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 25653 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 25653 มา 1 คู่ เช่น 3 x 8551
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 25653
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 25653 แบบที่หนึ่ง
- 25653
- 51
- 3
- 17
- 503
- 51
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 25653 แบบที่สอง
- 25653
- 3
- 8551
- 17
- 503
ดังนั้น 25653 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
25653 =
3 x 17 x 503
2. การแยกตัวประกอบของ 25653 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 25653 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 25653 นั้นก็คือ 3, 17, 503 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 25653
3)2565317)8551503)5031ดังนั้น 25653 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้25653 = 3 x 17 x 503วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 25653
1แยกตัวประกอบของ 25653 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 31 x 171 x 50312ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 17 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 503 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 25653 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 25653 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 25653 นั้นก็คือ 3, 17, 503 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 25653
3
)25653
17
)8551
503
)503
1
ดังนั้น 25653 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
25653 = 3 x 17 x 503
1แยกตัวประกอบของ 25653 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 31 x 171 x 5031
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 17 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 503 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 25653 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 25653 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇