ตัวประกอบของ 25649 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 25649
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 25649 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 25649 ได้ลงตัว
▶
▶ 2. การแยกตัวประกอบของ 25649 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 25649 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 25649 มีทั้งหมด 4 ตัวคือ 1, 13, 1973, 25649
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
25649 ÷ 1 | = | 25649 | เหลือเศษ 0 |
25649 ÷ 13 | = | 1973 | เหลือเศษ 0 |
25649 ÷ 1973 | = | 13 | เหลือเศษ 0 |
25649 ÷ 25649 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 25649
1 x 25649 | = | 25649 |
13 x 1973 | = | 25649 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 25649
1 + 13 + 1973 + 25649 = 27636
▶ ตัวประกอบของ 25649 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 2 ตัวดังนี้
13, 1973
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 25649 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
25649 = 13 x 1973
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 25649 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 25649 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 25649 มา 1 คู่ เช่น 13 x 1973
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 25649
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 25649
- 25649
- 13
- 1973
ดังนั้น 25649 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
25649 =
13 x 1973
2. การแยกตัวประกอบของ 25649 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 25649 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 25649 นั้นก็คือ 13, 1973 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 25649
13)256491973)19731ดังนั้น 25649 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้25649 = 13 x 1973วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 25649
1แยกตัวประกอบของ 25649 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 131 x 197312ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 13 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 1973 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 = 4✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 25649 มีทั้งหมด 4 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 25649 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 25649 นั้นก็คือ 13, 1973 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 25649
13
)25649
1973
)1973
1
ดังนั้น 25649 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
25649 = 13 x 1973
1แยกตัวประกอบของ 25649 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 131 x 19731
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 13 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 1973 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 = 4✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 25649 มีทั้งหมด 4 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 25649 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇