ตัวประกอบของ 25557 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 25557
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 25557 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 25557 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 25557 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 25557 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 25557 มีทั้งหมด 8 ตัวคือ 1, 3, 7, 21, 1217, 3651, 8519, 25557
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
| 25557 ÷ 1 | = | 25557 | เหลือเศษ 0 |
| 25557 ÷ 3 | = | 8519 | เหลือเศษ 0 |
| 25557 ÷ 7 | = | 3651 | เหลือเศษ 0 |
| 25557 ÷ 21 | = | 1217 | เหลือเศษ 0 |
| 25557 ÷ 1217 | = | 21 | เหลือเศษ 0 |
| 25557 ÷ 3651 | = | 7 | เหลือเศษ 0 |
| 25557 ÷ 8519 | = | 3 | เหลือเศษ 0 |
| 25557 ÷ 25557 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 25557
| 1 x 25557 | = | 25557 |
| 3 x 8519 | = | 25557 |
| 7 x 3651 | = | 25557 |
| 21 x 1217 | = | 25557 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 25557
1 + 3 + 7 + 21 + 1217 + 3651 + 8519 + 25557 = 38976
▶ ตัวประกอบของ 25557 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
3, 7, 1217
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 25557 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
25557 = 3 x 7 x 1217
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 25557 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 25557 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 25557 มา 1 คู่ เช่น 3 x 8519
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 25557
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 25557 แบบที่หนึ่ง
- 25557
- 21
- 3
- 7
- 1217
- 21
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 25557 แบบที่สอง
- 25557
- 3
- 8519
- 7
- 1217
ดังนั้น 25557 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
25557 =
3 x 7 x 1217
2. การแยกตัวประกอบของ 25557 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 25557 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 25557 นั้นก็คือ 3, 7, 1217 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 25557
3)255577)85191217)12171ดังนั้น 25557 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้25557 = 3 x 7 x 1217วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 25557
1แยกตัวประกอบของ 25557 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 31 x 71 x 121712ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 7 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 1217 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 25557 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 25557 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 25557 นั้นก็คือ 3, 7, 1217 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 25557
3
)25557
7
)8519
1217
)1217
1
ดังนั้น 25557 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
25557 = 3 x 7 x 1217
1แยกตัวประกอบของ 25557 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 31 x 71 x 12171
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 7 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 1217 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 25557 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 25557 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇