โปรแกรมหาตัวประกอบของจำนวนนับ
ใส่ตัวเลขที่ต้องการหาตัวประกอบ โปรแกรมจะแสดงคำตอบและวิธีการแยกตัวประกอบให้อัตโนมัติ
เทพควิช-lnwquiz

ตัวประกอบของ 25464 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 25464

คำนิยาม

ตัวประกอบของ 25464 มีอะไรบ้าง

ตัวประกอบของ 25464 มีทั้งหมด 16 ตัวคือ 1, 2, 3, 4, 6, 8, 12, 24, 1061, 2122, 3183, 4244, 6366, 8488, 12732, 25464
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
25464 ÷ 1=25464เหลือเศษ 0
25464 ÷ 2=12732เหลือเศษ 0
25464 ÷ 3=8488เหลือเศษ 0
25464 ÷ 4=6366เหลือเศษ 0
25464 ÷ 6=4244เหลือเศษ 0
25464 ÷ 8=3183เหลือเศษ 0
25464 ÷ 12=2122เหลือเศษ 0
25464 ÷ 24=1061เหลือเศษ 0
25464 ÷ 1061=24เหลือเศษ 0
25464 ÷ 2122=12เหลือเศษ 0
25464 ÷ 3183=8เหลือเศษ 0
25464 ÷ 4244=6เหลือเศษ 0
25464 ÷ 6366=4เหลือเศษ 0
25464 ÷ 8488=3เหลือเศษ 0
25464 ÷ 12732=2เหลือเศษ 0
25464 ÷ 25464=1เหลือเศษ 0
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 25464
1 x 25464
2 x 12732
3 x 8488
4 x 6366
6 x 4244
8 x 3183
12 x 2122
24 x 1061
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 25464
1 + 2 + 3 + 4 + 6 + 8 + 12 + 24 + 1061 + 2122 + 3183 + 4244 + 6366 + 8488 + 12732 + 25464 = 63720
ตัวประกอบของ 25464 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
2, 3, 1061
การแยกตัวประกอบคืออะไร

25464 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้

25464 = 2 x 2 x 2 x 3 x 1061
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 25464 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
25464 = 23 x 3 x 1061
วิธีการแยกตัวประกอบ

1. การแยกตัวประกอบของ 25464 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲

วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 25464 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 25464 มา 1 คู่ เช่น 2 x 12732
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 25464
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 25464 แบบที่หนึ่ง
  • 25464
    • 24
      • 4
        • 2
        • 2
      • 6
        • 2
        • 3
    • 1061

ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 25464 แบบที่สอง
  • 25464
    • 2
    • 12732
      • 2
      • 6366
        • 2
        • 3183
          • 3
          • 1061
ดังนั้น 25464 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
25464 = 2 x 2 x 2 x 3 x 1061
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
25464 = 23 x 3 x 1061 หรือ 23 x 31 x 10611

2. การแยกตัวประกอบของ 25464 ด้วยวิธีหารสั้น

วิธีทำ
1หาร 25464 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 25464 นั้นก็คือ 2, 3, 1061 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 25464

2
)25464
2
)12732
2
)6366
3
)3183
1061
)1061
1
ดังนั้น 25464 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
25464 = 2 x 2 x 2 x 3 x 1061
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
25464 = 23 x 3 x 1061 หรือ 23 x 31 x 10611

วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 25464

1แยกตัวประกอบของ 25464 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 23 x 31 x 10611
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
  • 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 3 ให้เอา 3 + 1 = 4
  • 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
  • 👉 1061 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 4 x 2 x 2 = 16
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 25464 มีทั้งหมด 16 ตัว
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 25464 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇