ตัวประกอบของ 25460 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 25460
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 25460 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 25460 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 25460 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 25460 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 25460 มีทั้งหมด 24 ตัวคือ 1, 2, 4, 5, 10, 19, 20, 38, 67, 76, 95, 134, 190, 268, 335, 380, 670, 1273, 1340, 2546, 5092, 6365, 12730, 25460
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
25460 ÷ 1 | = | 25460 | เหลือเศษ 0 |
25460 ÷ 2 | = | 12730 | เหลือเศษ 0 |
25460 ÷ 4 | = | 6365 | เหลือเศษ 0 |
25460 ÷ 5 | = | 5092 | เหลือเศษ 0 |
25460 ÷ 10 | = | 2546 | เหลือเศษ 0 |
25460 ÷ 19 | = | 1340 | เหลือเศษ 0 |
25460 ÷ 20 | = | 1273 | เหลือเศษ 0 |
25460 ÷ 38 | = | 670 | เหลือเศษ 0 |
25460 ÷ 67 | = | 380 | เหลือเศษ 0 |
25460 ÷ 76 | = | 335 | เหลือเศษ 0 |
25460 ÷ 95 | = | 268 | เหลือเศษ 0 |
25460 ÷ 134 | = | 190 | เหลือเศษ 0 |
25460 ÷ 190 | = | 134 | เหลือเศษ 0 |
25460 ÷ 268 | = | 95 | เหลือเศษ 0 |
25460 ÷ 335 | = | 76 | เหลือเศษ 0 |
25460 ÷ 380 | = | 67 | เหลือเศษ 0 |
25460 ÷ 670 | = | 38 | เหลือเศษ 0 |
25460 ÷ 1273 | = | 20 | เหลือเศษ 0 |
25460 ÷ 1340 | = | 19 | เหลือเศษ 0 |
25460 ÷ 2546 | = | 10 | เหลือเศษ 0 |
25460 ÷ 5092 | = | 5 | เหลือเศษ 0 |
25460 ÷ 6365 | = | 4 | เหลือเศษ 0 |
25460 ÷ 12730 | = | 2 | เหลือเศษ 0 |
25460 ÷ 25460 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 25460
1 x 25460 | = | 25460 |
2 x 12730 | = | 25460 |
4 x 6365 | = | 25460 |
5 x 5092 | = | 25460 |
10 x 2546 | = | 25460 |
19 x 1340 | = | 25460 |
20 x 1273 | = | 25460 |
38 x 670 | = | 25460 |
67 x 380 | = | 25460 |
76 x 335 | = | 25460 |
95 x 268 | = | 25460 |
134 x 190 | = | 25460 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 25460
1 + 2 + 4 + 5 + 10 + 19 + 20 + 38 + 67 + 76 + 95 + 134 + 190 + 268 + 335 + 380 + 670 + 1273 + 1340 + 2546 + 5092 + 6365 + 12730 + 25460 = 57120
▶ ตัวประกอบของ 25460 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 4 ตัวดังนี้
2, 5, 19, 67
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 25460 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
25460 = 2 x 2 x 5 x 19 x 67
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 25460 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
25460 = 22 x 5 x 19 x 67
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 25460 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
25460 = 22 x 5 x 19 x 67
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 25460 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 25460 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 25460 มา 1 คู่ เช่น 2 x 12730
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 25460
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 25460 แบบที่หนึ่ง
- 25460
- 134
- 2
- 67
- 190
- 10
- 2
- 5
- 19
- 10
- 134
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 25460 แบบที่สอง
- 25460
- 2
- 12730
- 2
- 6365
- 5
- 1273
- 19
- 67
ดังนั้น 25460 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
25460 =
2 x 2 x 5 x 19 x 67
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
25460 =
22 x 5 x 19 x 67 หรือ 22 x 51 x 191 x 671
2. การแยกตัวประกอบของ 25460 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 25460 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 25460 นั้นก็คือ 2, 5, 19, 67 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 25460
2)254602)127305)636519)127367)671ดังนั้น 25460 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้25460 = 2 x 2 x 5 x 19 x 67หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง25460 = 22 x 5 x 19 x 67 หรือ 22 x 51 x 191 x 671วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 25460
1แยกตัวประกอบของ 25460 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 22 x 51 x 191 x 6712ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
- 👉 5 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 19 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 67 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 3 x 2 x 2 x 2 = 24✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 25460 มีทั้งหมด 24 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 25460 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 25460 นั้นก็คือ 2, 5, 19, 67 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 25460
2
)25460
2
)12730
5
)6365
19
)1273
67
)67
1
ดังนั้น 25460 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
25460 = 2 x 2 x 5 x 19 x 67
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
25460 = 22 x 5 x 19 x 67 หรือ 22 x 51 x 191 x 671
1แยกตัวประกอบของ 25460 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 22 x 51 x 191 x 671
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
- 👉 5 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 19 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 67 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 3 x 2 x 2 x 2 = 24✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 25460 มีทั้งหมด 24 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 25460 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇