ตัวประกอบของ 25207 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 25207
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 25207 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 25207 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 25207 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 25207 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 25207 มีทั้งหมด 8 ตัวคือ 1, 7, 13, 91, 277, 1939, 3601, 25207
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
25207 ÷ 1 | = | 25207 | เหลือเศษ 0 |
25207 ÷ 7 | = | 3601 | เหลือเศษ 0 |
25207 ÷ 13 | = | 1939 | เหลือเศษ 0 |
25207 ÷ 91 | = | 277 | เหลือเศษ 0 |
25207 ÷ 277 | = | 91 | เหลือเศษ 0 |
25207 ÷ 1939 | = | 13 | เหลือเศษ 0 |
25207 ÷ 3601 | = | 7 | เหลือเศษ 0 |
25207 ÷ 25207 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 25207
1 x 25207 | = | 25207 |
7 x 3601 | = | 25207 |
13 x 1939 | = | 25207 |
91 x 277 | = | 25207 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 25207
1 + 7 + 13 + 91 + 277 + 1939 + 3601 + 25207 = 31136
▶ ตัวประกอบของ 25207 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
7, 13, 277
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 25207 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
25207 = 7 x 13 x 277
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 25207 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 25207 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 25207 มา 1 คู่ เช่น 7 x 3601
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 25207
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 25207 แบบที่หนึ่ง
- 25207
- 91
- 7
- 13
- 277
- 91
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 25207 แบบที่สอง
- 25207
- 7
- 3601
- 13
- 277
ดังนั้น 25207 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
25207 =
7 x 13 x 277
2. การแยกตัวประกอบของ 25207 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 25207 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 25207 นั้นก็คือ 7, 13, 277 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 25207
7)2520713)3601277)2771ดังนั้น 25207 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้25207 = 7 x 13 x 277วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 25207
1แยกตัวประกอบของ 25207 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 71 x 131 x 27712ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 7 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 13 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 277 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 25207 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 25207 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 25207 นั้นก็คือ 7, 13, 277 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 25207
7
)25207
13
)3601
277
)277
1
ดังนั้น 25207 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
25207 = 7 x 13 x 277
1แยกตัวประกอบของ 25207 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 71 x 131 x 2771
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 7 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 13 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 277 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 25207 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 25207 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇