ตัวประกอบของ 25203 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 25203
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 25203 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 25203 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 25203 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 25203 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 25203 มีทั้งหมด 8 ตัวคือ 1, 3, 31, 93, 271, 813, 8401, 25203
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
25203 ÷ 1 | = | 25203 | เหลือเศษ 0 |
25203 ÷ 3 | = | 8401 | เหลือเศษ 0 |
25203 ÷ 31 | = | 813 | เหลือเศษ 0 |
25203 ÷ 93 | = | 271 | เหลือเศษ 0 |
25203 ÷ 271 | = | 93 | เหลือเศษ 0 |
25203 ÷ 813 | = | 31 | เหลือเศษ 0 |
25203 ÷ 8401 | = | 3 | เหลือเศษ 0 |
25203 ÷ 25203 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 25203
1 x 25203 | = | 25203 |
3 x 8401 | = | 25203 |
31 x 813 | = | 25203 |
93 x 271 | = | 25203 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 25203
1 + 3 + 31 + 93 + 271 + 813 + 8401 + 25203 = 34816
▶ ตัวประกอบของ 25203 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
3, 31, 271
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 25203 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
25203 = 3 x 31 x 271
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 25203 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 25203 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 25203 มา 1 คู่ เช่น 3 x 8401
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 25203
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 25203 แบบที่หนึ่ง
- 25203
- 93
- 3
- 31
- 271
- 93
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 25203 แบบที่สอง
- 25203
- 3
- 8401
- 31
- 271
ดังนั้น 25203 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
25203 =
3 x 31 x 271
2. การแยกตัวประกอบของ 25203 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 25203 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 25203 นั้นก็คือ 3, 31, 271 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 25203
3)2520331)8401271)2711ดังนั้น 25203 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้25203 = 3 x 31 x 271วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 25203
1แยกตัวประกอบของ 25203 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 31 x 311 x 27112ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 31 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 271 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 25203 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 25203 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 25203 นั้นก็คือ 3, 31, 271 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 25203
3
)25203
31
)8401
271
)271
1
ดังนั้น 25203 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
25203 = 3 x 31 x 271
1แยกตัวประกอบของ 25203 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 31 x 311 x 2711
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 31 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 271 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 25203 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 25203 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇