ตัวประกอบของ 23452 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 23452
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 23452 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 23452 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 23452 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 23452 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 23452 มีทั้งหมด 24 ตัวคือ 1, 2, 4, 11, 13, 22, 26, 41, 44, 52, 82, 143, 164, 286, 451, 533, 572, 902, 1066, 1804, 2132, 5863, 11726, 23452
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
| 23452 ÷ 1 | = | 23452 | เหลือเศษ 0 |
| 23452 ÷ 2 | = | 11726 | เหลือเศษ 0 |
| 23452 ÷ 4 | = | 5863 | เหลือเศษ 0 |
| 23452 ÷ 11 | = | 2132 | เหลือเศษ 0 |
| 23452 ÷ 13 | = | 1804 | เหลือเศษ 0 |
| 23452 ÷ 22 | = | 1066 | เหลือเศษ 0 |
| 23452 ÷ 26 | = | 902 | เหลือเศษ 0 |
| 23452 ÷ 41 | = | 572 | เหลือเศษ 0 |
| 23452 ÷ 44 | = | 533 | เหลือเศษ 0 |
| 23452 ÷ 52 | = | 451 | เหลือเศษ 0 |
| 23452 ÷ 82 | = | 286 | เหลือเศษ 0 |
| 23452 ÷ 143 | = | 164 | เหลือเศษ 0 |
| 23452 ÷ 164 | = | 143 | เหลือเศษ 0 |
| 23452 ÷ 286 | = | 82 | เหลือเศษ 0 |
| 23452 ÷ 451 | = | 52 | เหลือเศษ 0 |
| 23452 ÷ 533 | = | 44 | เหลือเศษ 0 |
| 23452 ÷ 572 | = | 41 | เหลือเศษ 0 |
| 23452 ÷ 902 | = | 26 | เหลือเศษ 0 |
| 23452 ÷ 1066 | = | 22 | เหลือเศษ 0 |
| 23452 ÷ 1804 | = | 13 | เหลือเศษ 0 |
| 23452 ÷ 2132 | = | 11 | เหลือเศษ 0 |
| 23452 ÷ 5863 | = | 4 | เหลือเศษ 0 |
| 23452 ÷ 11726 | = | 2 | เหลือเศษ 0 |
| 23452 ÷ 23452 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 23452
| 1 x 23452 | = | 23452 |
| 2 x 11726 | = | 23452 |
| 4 x 5863 | = | 23452 |
| 11 x 2132 | = | 23452 |
| 13 x 1804 | = | 23452 |
| 22 x 1066 | = | 23452 |
| 26 x 902 | = | 23452 |
| 41 x 572 | = | 23452 |
| 44 x 533 | = | 23452 |
| 52 x 451 | = | 23452 |
| 82 x 286 | = | 23452 |
| 143 x 164 | = | 23452 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 23452
1 + 2 + 4 + 11 + 13 + 22 + 26 + 41 + 44 + 52 + 82 + 143 + 164 + 286 + 451 + 533 + 572 + 902 + 1066 + 1804 + 2132 + 5863 + 11726 + 23452 = 49392
▶ ตัวประกอบของ 23452 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 4 ตัวดังนี้
2, 11, 13, 41
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 23452 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
23452 = 2 x 2 x 11 x 13 x 41
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 23452 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
23452 = 22 x 11 x 13 x 41
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 23452 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
23452 = 22 x 11 x 13 x 41
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 23452 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 23452 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 23452 มา 1 คู่ เช่น 2 x 11726
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 23452
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 23452 แบบที่หนึ่ง
- 23452
- 143
- 11
- 13
- 164
- 4
- 2
- 2
- 41
- 4
- 143
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 23452 แบบที่สอง
- 23452
- 2
- 11726
- 2
- 5863
- 11
- 533
- 13
- 41
ดังนั้น 23452 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
23452 =
2 x 2 x 11 x 13 x 41
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
23452 =
22 x 11 x 13 x 41 หรือ 22 x 111 x 131 x 411
2. การแยกตัวประกอบของ 23452 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 23452 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 23452 นั้นก็คือ 2, 11, 13, 41 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 23452
2)234522)1172611)586313)53341)411ดังนั้น 23452 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้23452 = 2 x 2 x 11 x 13 x 41หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง23452 = 22 x 11 x 13 x 41 หรือ 22 x 111 x 131 x 411วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 23452
1แยกตัวประกอบของ 23452 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 22 x 111 x 131 x 4112ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
- 👉 11 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 13 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 41 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 3 x 2 x 2 x 2 = 24✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 23452 มีทั้งหมด 24 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 23452 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 23452 นั้นก็คือ 2, 11, 13, 41 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 23452
2
)23452
2
)11726
11
)5863
13
)533
41
)41
1
ดังนั้น 23452 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
23452 = 2 x 2 x 11 x 13 x 41
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
23452 = 22 x 11 x 13 x 41 หรือ 22 x 111 x 131 x 411
1แยกตัวประกอบของ 23452 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 22 x 111 x 131 x 411
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
- 👉 11 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 13 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 41 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 3 x 2 x 2 x 2 = 24✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 23452 มีทั้งหมด 24 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 23452 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇