ตัวประกอบของ 18466 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 18466
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 18466 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 18466 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 18466 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 18466 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 18466 มีทั้งหมด 8 ตัวคือ 1, 2, 7, 14, 1319, 2638, 9233, 18466
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
| 18466 ÷ 1 | = | 18466 | เหลือเศษ 0 |
| 18466 ÷ 2 | = | 9233 | เหลือเศษ 0 |
| 18466 ÷ 7 | = | 2638 | เหลือเศษ 0 |
| 18466 ÷ 14 | = | 1319 | เหลือเศษ 0 |
| 18466 ÷ 1319 | = | 14 | เหลือเศษ 0 |
| 18466 ÷ 2638 | = | 7 | เหลือเศษ 0 |
| 18466 ÷ 9233 | = | 2 | เหลือเศษ 0 |
| 18466 ÷ 18466 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 18466
| 1 x 18466 | = | 18466 |
| 2 x 9233 | = | 18466 |
| 7 x 2638 | = | 18466 |
| 14 x 1319 | = | 18466 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 18466
1 + 2 + 7 + 14 + 1319 + 2638 + 9233 + 18466 = 31680
▶ ตัวประกอบของ 18466 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
2, 7, 1319
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 18466 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
18466 = 2 x 7 x 1319
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 18466 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 18466 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 18466 มา 1 คู่ เช่น 2 x 9233
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 18466
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 18466 แบบที่หนึ่ง
- 18466
- 14
- 2
- 7
- 1319
- 14
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 18466 แบบที่สอง
- 18466
- 2
- 9233
- 7
- 1319
ดังนั้น 18466 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
18466 =
2 x 7 x 1319
2. การแยกตัวประกอบของ 18466 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 18466 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 18466 นั้นก็คือ 2, 7, 1319 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 18466
2)184667)92331319)13191ดังนั้น 18466 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้18466 = 2 x 7 x 1319วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 18466
1แยกตัวประกอบของ 18466 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 71 x 131912ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 7 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 1319 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 18466 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 18466 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 18466 นั้นก็คือ 2, 7, 1319 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 18466
2
)18466
7
)9233
1319
)1319
1
ดังนั้น 18466 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
18466 = 2 x 7 x 1319
1แยกตัวประกอบของ 18466 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 71 x 13191
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 7 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 1319 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 18466 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 18466 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇
