ตัวประกอบของ 17537 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 17537
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 17537 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 17537 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 17537 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 17537 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 17537 มีทั้งหมด 8 ตัวคือ 1, 13, 19, 71, 247, 923, 1349, 17537
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
| 17537 ÷ 1 | = | 17537 | เหลือเศษ 0 |
| 17537 ÷ 13 | = | 1349 | เหลือเศษ 0 |
| 17537 ÷ 19 | = | 923 | เหลือเศษ 0 |
| 17537 ÷ 71 | = | 247 | เหลือเศษ 0 |
| 17537 ÷ 247 | = | 71 | เหลือเศษ 0 |
| 17537 ÷ 923 | = | 19 | เหลือเศษ 0 |
| 17537 ÷ 1349 | = | 13 | เหลือเศษ 0 |
| 17537 ÷ 17537 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 17537
| 1 x 17537 | = | 17537 |
| 13 x 1349 | = | 17537 |
| 19 x 923 | = | 17537 |
| 71 x 247 | = | 17537 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 17537
1 + 13 + 19 + 71 + 247 + 923 + 1349 + 17537 = 20160
▶ ตัวประกอบของ 17537 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
13, 19, 71
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 17537 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
17537 = 13 x 19 x 71
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 17537 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 17537 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 17537 มา 1 คู่ เช่น 13 x 1349
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 17537
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 17537 แบบที่หนึ่ง
- 17537
- 71
- 247
- 13
- 19
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 17537 แบบที่สอง
- 17537
- 13
- 1349
- 19
- 71
ดังนั้น 17537 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
17537 =
13 x 19 x 71
2. การแยกตัวประกอบของ 17537 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 17537 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 17537 นั้นก็คือ 13, 19, 71 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 17537
13)1753719)134971)711ดังนั้น 17537 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้17537 = 13 x 19 x 71วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 17537
1แยกตัวประกอบของ 17537 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 131 x 191 x 7112ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 13 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 19 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 71 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 17537 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 17537 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 17537 นั้นก็คือ 13, 19, 71 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 17537
13
)17537
19
)1349
71
)71
1
ดังนั้น 17537 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
17537 = 13 x 19 x 71
1แยกตัวประกอบของ 17537 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 131 x 191 x 711
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 13 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 19 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 71 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 17537 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 17537 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇