โปรแกรมหาตัวประกอบของจำนวนนับ
ใส่ตัวเลขที่ต้องการหาตัวประกอบ โปรแกรมจะแสดงคำตอบและวิธีการแยกตัวประกอบให้อัตโนมัติ
เทพควิช-lnwquiz

ตัวประกอบของ 17536 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 17536

คำนิยาม

ตัวประกอบของ 17536 มีอะไรบ้าง

ตัวประกอบของ 17536 มีทั้งหมด 16 ตัวคือ 1, 2, 4, 8, 16, 32, 64, 128, 137, 274, 548, 1096, 2192, 4384, 8768, 17536
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
17536 ÷ 1=17536เหลือเศษ 0
17536 ÷ 2=8768เหลือเศษ 0
17536 ÷ 4=4384เหลือเศษ 0
17536 ÷ 8=2192เหลือเศษ 0
17536 ÷ 16=1096เหลือเศษ 0
17536 ÷ 32=548เหลือเศษ 0
17536 ÷ 64=274เหลือเศษ 0
17536 ÷ 128=137เหลือเศษ 0
17536 ÷ 137=128เหลือเศษ 0
17536 ÷ 274=64เหลือเศษ 0
17536 ÷ 548=32เหลือเศษ 0
17536 ÷ 1096=16เหลือเศษ 0
17536 ÷ 2192=8เหลือเศษ 0
17536 ÷ 4384=4เหลือเศษ 0
17536 ÷ 8768=2เหลือเศษ 0
17536 ÷ 17536=1เหลือเศษ 0
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 17536
1 x 17536
2 x 8768
4 x 4384
8 x 2192
16 x 1096
32 x 548
64 x 274
128 x 137
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 17536
1 + 2 + 4 + 8 + 16 + 32 + 64 + 128 + 137 + 274 + 548 + 1096 + 2192 + 4384 + 8768 + 17536 = 35190
ตัวประกอบของ 17536 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 2 ตัวดังนี้
2, 137
การแยกตัวประกอบคืออะไร

17536 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้

17536 = 2 x 2 x 2 x 2 x 2 x 2 x 2 x 137
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 17536 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
17536 = 27 x 137
วิธีการแยกตัวประกอบ

1. การแยกตัวประกอบของ 17536 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲

วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 17536 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 17536 มา 1 คู่ เช่น 2 x 8768
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 17536
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 17536 แบบที่หนึ่ง
  • 17536
    • 128
      • 8
        • 2
        • 4
          • 2
          • 2
      • 16
        • 4
          • 2
          • 2
        • 4
          • 2
          • 2
    • 137

ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 17536 แบบที่สอง
  • 17536
    • 2
    • 8768
      • 2
      • 4384
        • 2
        • 2192
          • 2
          • 1096
            • 2
            • 548
              • 2
              • 274
                • 2
                • 137
ดังนั้น 17536 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
17536 = 2 x 2 x 2 x 2 x 2 x 2 x 2 x 137
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
17536 = 27 x 137 หรือ 27 x 1371

2. การแยกตัวประกอบของ 17536 ด้วยวิธีหารสั้น

วิธีทำ
1หาร 17536 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 17536 นั้นก็คือ 2, 137 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 17536

2
)17536
2
)8768
2
)4384
2
)2192
2
)1096
2
)548
2
)274
137
)137
1
ดังนั้น 17536 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
17536 = 2 x 2 x 2 x 2 x 2 x 2 x 2 x 137
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
17536 = 27 x 137 หรือ 27 x 1371

วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 17536

1แยกตัวประกอบของ 17536 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 27 x 1371
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
  • 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 7 ให้เอา 7 + 1 = 8
  • 👉 137 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 8 x 2 = 16
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 17536 มีทั้งหมด 16 ตัว
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 17536 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇