โปรแกรมหาตัวประกอบของจำนวนนับ
ใส่ตัวเลขที่ต้องการหาตัวประกอบ โปรแกรมจะแสดงคำตอบและวิธีการแยกตัวประกอบให้อัตโนมัติ
เทพควิช-lnwquiz

ตัวประกอบของ 11320 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 11320

คำนิยาม

ตัวประกอบของ 11320 มีอะไรบ้าง

ตัวประกอบของ 11320 มีทั้งหมด 16 ตัวคือ 1, 2, 4, 5, 8, 10, 20, 40, 283, 566, 1132, 1415, 2264, 2830, 5660, 11320
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
11320 ÷ 1=11320เหลือเศษ 0
11320 ÷ 2=5660เหลือเศษ 0
11320 ÷ 4=2830เหลือเศษ 0
11320 ÷ 5=2264เหลือเศษ 0
11320 ÷ 8=1415เหลือเศษ 0
11320 ÷ 10=1132เหลือเศษ 0
11320 ÷ 20=566เหลือเศษ 0
11320 ÷ 40=283เหลือเศษ 0
11320 ÷ 283=40เหลือเศษ 0
11320 ÷ 566=20เหลือเศษ 0
11320 ÷ 1132=10เหลือเศษ 0
11320 ÷ 1415=8เหลือเศษ 0
11320 ÷ 2264=5เหลือเศษ 0
11320 ÷ 2830=4เหลือเศษ 0
11320 ÷ 5660=2เหลือเศษ 0
11320 ÷ 11320=1เหลือเศษ 0
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 11320
1 x 11320
2 x 5660
4 x 2830
5 x 2264
8 x 1415
10 x 1132
20 x 566
40 x 283
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 11320
1 + 2 + 4 + 5 + 8 + 10 + 20 + 40 + 283 + 566 + 1132 + 1415 + 2264 + 2830 + 5660 + 11320 = 25560
ตัวประกอบของ 11320 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
2, 5, 283
การแยกตัวประกอบคืออะไร

11320 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้

11320 = 2 x 2 x 2 x 5 x 283
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 11320 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
11320 = 23 x 5 x 283
วิธีการแยกตัวประกอบ

1. การแยกตัวประกอบของ 11320 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲

วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 11320 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 11320 มา 1 คู่ เช่น 2 x 5660
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 11320
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 11320 แบบที่หนึ่ง
  • 11320
    • 40
      • 5
      • 8
        • 2
        • 4
          • 2
          • 2
    • 283

ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 11320 แบบที่สอง
  • 11320
    • 2
    • 5660
      • 2
      • 2830
        • 2
        • 1415
          • 5
          • 283
ดังนั้น 11320 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
11320 = 2 x 2 x 2 x 5 x 283
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
11320 = 23 x 5 x 283 หรือ 23 x 51 x 2831

2. การแยกตัวประกอบของ 11320 ด้วยวิธีหารสั้น

วิธีทำ
1หาร 11320 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 11320 นั้นก็คือ 2, 5, 283 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 11320

2
)11320
2
)5660
2
)2830
5
)1415
283
)283
1
ดังนั้น 11320 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
11320 = 2 x 2 x 2 x 5 x 283
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
11320 = 23 x 5 x 283 หรือ 23 x 51 x 2831

วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 11320

1แยกตัวประกอบของ 11320 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 23 x 51 x 2831
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
  • 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 3 ให้เอา 3 + 1 = 4
  • 👉 5 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
  • 👉 283 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 4 x 2 x 2 = 16
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 11320 มีทั้งหมด 16 ตัว
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 11320 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇