โปรแกรมหาตัวประกอบของจำนวนนับ
ใส่ตัวเลขที่ต้องการหาตัวประกอบ โปรแกรมจะแสดงคำตอบและวิธีการแยกตัวประกอบให้อัตโนมัติ
เทพควิช-lnwquiz

ตัวประกอบของ 10557 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 10557

คำนิยาม

ตัวประกอบของ 10557 มีอะไรบ้าง

ตัวประกอบของ 10557 มีทั้งหมด 16 ตัวคือ 1, 3, 9, 17, 23, 27, 51, 69, 153, 207, 391, 459, 621, 1173, 3519, 10557
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
10557 ÷ 1=10557เหลือเศษ 0
10557 ÷ 3=3519เหลือเศษ 0
10557 ÷ 9=1173เหลือเศษ 0
10557 ÷ 17=621เหลือเศษ 0
10557 ÷ 23=459เหลือเศษ 0
10557 ÷ 27=391เหลือเศษ 0
10557 ÷ 51=207เหลือเศษ 0
10557 ÷ 69=153เหลือเศษ 0
10557 ÷ 153=69เหลือเศษ 0
10557 ÷ 207=51เหลือเศษ 0
10557 ÷ 391=27เหลือเศษ 0
10557 ÷ 459=23เหลือเศษ 0
10557 ÷ 621=17เหลือเศษ 0
10557 ÷ 1173=9เหลือเศษ 0
10557 ÷ 3519=3เหลือเศษ 0
10557 ÷ 10557=1เหลือเศษ 0
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 10557
1 x 10557
3 x 3519
9 x 1173
17 x 621
23 x 459
27 x 391
51 x 207
69 x 153
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 10557
1 + 3 + 9 + 17 + 23 + 27 + 51 + 69 + 153 + 207 + 391 + 459 + 621 + 1173 + 3519 + 10557 = 17280
ตัวประกอบของ 10557 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
3, 17, 23
การแยกตัวประกอบคืออะไร

10557 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้

10557 = 3 x 3 x 3 x 17 x 23
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 10557 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
10557 = 33 x 17 x 23
วิธีการแยกตัวประกอบ

1. การแยกตัวประกอบของ 10557 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲

วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 10557 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 10557 มา 1 คู่ เช่น 3 x 3519
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 10557
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 10557 แบบที่หนึ่ง
  • 10557
    • 69
      • 3
      • 23
    • 153
      • 9
        • 3
        • 3
      • 17

ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 10557 แบบที่สอง
  • 10557
    • 3
    • 3519
      • 3
      • 1173
        • 3
        • 391
          • 17
          • 23
ดังนั้น 10557 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
10557 = 3 x 3 x 3 x 17 x 23
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
10557 = 33 x 17 x 23 หรือ 33 x 171 x 231

2. การแยกตัวประกอบของ 10557 ด้วยวิธีหารสั้น

วิธีทำ
1หาร 10557 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 10557 นั้นก็คือ 3, 17, 23 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 10557

3
)10557
3
)3519
3
)1173
17
)391
23
)23
1
ดังนั้น 10557 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
10557 = 3 x 3 x 3 x 17 x 23
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
10557 = 33 x 17 x 23 หรือ 33 x 171 x 231

วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 10557

1แยกตัวประกอบของ 10557 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 33 x 171 x 231
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
  • 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 3 ให้เอา 3 + 1 = 4
  • 👉 17 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
  • 👉 23 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 4 x 2 x 2 = 16
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 10557 มีทั้งหมด 16 ตัว
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 10557 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇