โปรแกรมหาตัวประกอบของจำนวนนับ
ใส่ตัวเลขที่ต้องการหาตัวประกอบ โปรแกรมจะแสดงคำตอบและวิธีการแยกตัวประกอบให้อัตโนมัติ
เทพควิช-lnwquiz

ตัวประกอบของ 10300 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 10300

คำนิยาม

ตัวประกอบของ 10300 มีอะไรบ้าง

ตัวประกอบของ 10300 มีทั้งหมด 18 ตัวคือ 1, 2, 4, 5, 10, 20, 25, 50, 100, 103, 206, 412, 515, 1030, 2060, 2575, 5150, 10300
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
10300 ÷ 1=10300เหลือเศษ 0
10300 ÷ 2=5150เหลือเศษ 0
10300 ÷ 4=2575เหลือเศษ 0
10300 ÷ 5=2060เหลือเศษ 0
10300 ÷ 10=1030เหลือเศษ 0
10300 ÷ 20=515เหลือเศษ 0
10300 ÷ 25=412เหลือเศษ 0
10300 ÷ 50=206เหลือเศษ 0
10300 ÷ 100=103เหลือเศษ 0
10300 ÷ 103=100เหลือเศษ 0
10300 ÷ 206=50เหลือเศษ 0
10300 ÷ 412=25เหลือเศษ 0
10300 ÷ 515=20เหลือเศษ 0
10300 ÷ 1030=10เหลือเศษ 0
10300 ÷ 2060=5เหลือเศษ 0
10300 ÷ 2575=4เหลือเศษ 0
10300 ÷ 5150=2เหลือเศษ 0
10300 ÷ 10300=1เหลือเศษ 0
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 10300
1 x 10300
2 x 5150
4 x 2575
5 x 2060
10 x 1030
20 x 515
25 x 412
50 x 206
100 x 103
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 10300
1 + 2 + 4 + 5 + 10 + 20 + 25 + 50 + 100 + 103 + 206 + 412 + 515 + 1030 + 2060 + 2575 + 5150 + 10300 = 22568
ตัวประกอบของ 10300 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
2, 5, 103
การแยกตัวประกอบคืออะไร

10300 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้

10300 = 2 x 2 x 5 x 5 x 103
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 10300 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
10300 = 22 x 52 x 103
วิธีการแยกตัวประกอบ

1. การแยกตัวประกอบของ 10300 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲

วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 10300 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 10300 มา 1 คู่ เช่น 2 x 5150
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 10300
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 10300 แบบที่หนึ่ง
  • 10300
    • 100
      • 10
        • 2
        • 5
      • 10
        • 2
        • 5
    • 103

ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 10300 แบบที่สอง
  • 10300
    • 2
    • 5150
      • 2
      • 2575
        • 5
        • 515
          • 5
          • 103
ดังนั้น 10300 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
10300 = 2 x 2 x 5 x 5 x 103
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
10300 = 22 x 52 x 103 หรือ 22 x 52 x 1031

2. การแยกตัวประกอบของ 10300 ด้วยวิธีหารสั้น

วิธีทำ
1หาร 10300 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 10300 นั้นก็คือ 2, 5, 103 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 10300

2
)10300
2
)5150
5
)2575
5
)515
103
)103
1
ดังนั้น 10300 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
10300 = 2 x 2 x 5 x 5 x 103
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
10300 = 22 x 52 x 103 หรือ 22 x 52 x 1031

วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 10300

1แยกตัวประกอบของ 10300 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 22 x 52 x 1031
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
  • 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
  • 👉 5 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
  • 👉 103 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 3 x 3 x 2 = 18
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 10300 มีทั้งหมด 18 ตัว
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 10300 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇