ตัวประกอบของ 8877 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 8877
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 8877 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 8877 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 8877 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 8877 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 8877 มีทั้งหมด 8 ตัวคือ 1, 3, 11, 33, 269, 807, 2959, 8877
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
8877 ÷ 1 | = | 8877 | เหลือเศษ 0 |
8877 ÷ 3 | = | 2959 | เหลือเศษ 0 |
8877 ÷ 11 | = | 807 | เหลือเศษ 0 |
8877 ÷ 33 | = | 269 | เหลือเศษ 0 |
8877 ÷ 269 | = | 33 | เหลือเศษ 0 |
8877 ÷ 807 | = | 11 | เหลือเศษ 0 |
8877 ÷ 2959 | = | 3 | เหลือเศษ 0 |
8877 ÷ 8877 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 8877
1 x 8877 | = | 8877 |
3 x 2959 | = | 8877 |
11 x 807 | = | 8877 |
33 x 269 | = | 8877 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 8877
1 + 3 + 11 + 33 + 269 + 807 + 2959 + 8877 = 12960
▶ ตัวประกอบของ 8877 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
3, 11, 269
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 8877 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
8877 = 3 x 11 x 269
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 8877 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 8877 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 8877 มา 1 คู่ เช่น 3 x 2959
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 8877
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 8877 แบบที่หนึ่ง
- 8877
- 33
- 3
- 11
- 269
- 33
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 8877 แบบที่สอง
- 8877
- 3
- 2959
- 11
- 269
ดังนั้น 8877 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
8877 =
3 x 11 x 269
2. การแยกตัวประกอบของ 8877 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 8877 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 8877 นั้นก็คือ 3, 11, 269 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 8877
3)887711)2959269)2691ดังนั้น 8877 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้8877 = 3 x 11 x 269วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 8877
1แยกตัวประกอบของ 8877 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 31 x 111 x 26912ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 11 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 269 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 8877 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 8877 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 8877 นั้นก็คือ 3, 11, 269 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 8877
3
)8877
11
)2959
269
)269
1
ดังนั้น 8877 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
8877 = 3 x 11 x 269
1แยกตัวประกอบของ 8877 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 31 x 111 x 2691
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 11 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 269 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 8877 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 8877 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇